วันนี้ (9 ธันวาคม) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งมหาเมฆ อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ขอนแก่นพอกันที พร้อม รวิศรา เอกสกุล, สุธินี จ่างพิพัฒน์นวกิจ กลุ่มผู้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องถึงปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกข้อหามาตรา 112 จากการชุมนุมปราศรัยที่หน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมผ่านมา
โดยอรรถพลได้สวมหมวกไดโนเสาร์สีส้มมาด้วย พร้อมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับหมายเรียกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีในข้อหามาตรา 116 ตอนนี้มารับทราบข้อหามาตรา 112 ที่เป็นกฎหมายไดโนเสาร์ จึงต้องแต่งชุดมาสู้กับกฎหมายไดโนเสาร์ ซึ่งตนถูกหมายเรียกข้อหานี้ที่นี่แห่งแรก แต่จะที่อื่นอีกหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป
อรรถพลกล่าวอีกว่า สำหรับความกังวลนั้นไม่มีสิ่งใดน่ากังวล เบื้องต้นจะให้การปฏิเสธไว้ก่อน เพราะไม่ได้กระทำสิ่งที่เป็นความผิด หากจะยัดเยียดข้อกล่าวหาก็ต้องสู้ต่อไปยาวๆ ตนไม่หวั่นไหวใดๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยระบุว่า จะไม่ใช้กฎหมายข้อนี้ แต่ตอนนี้กลับนำมาใช้ จึงมองว่ารัฐหรือผู้สนับสนุนมีวัตถุประสงค์ใดหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ มีกลุ่มนักศึกษาเดินทางมาให้กำลังใจผู้ถูกหมายเรียก พร้อมตะโกน “ครูใหญ่สู้ๆ” และ “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อมาเวลา 15.30 น. อรรถพลกล่าวภายหลังการสอบปากคำนาน 3 ชั่วโมงว่า ตำรวจนำหลักฐานจากการขึ้นปราศรัยในวันดังกล่าว บางส่วนนำเรื่องการอ่านแถลงการณ์หลายภาษามาออกหมายเรียก ซึ่งตำรวจถามว่าตนโกรธเคืองใครมาก่อนหรือไม่ ตนตอบว่าโกรธ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเรื่องการสืบทอดอำนาจ
ส่วนคำให้การก็ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้ปากคำเป็นเอกสารภายใน 30 วันอีกครั้ง ตอนนี้ตำรวจยังไม่มีกำหนดนัดเข้าพบอีก เมื่อรายงานตัวเสร็จก็ปล่อยตัวกลับ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล