วันนี้ (13 มิถุนายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามความก้าวหน้าการจัด ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 และความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ โดยมี พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ, พนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร, พล.ร.ท. วิจิตร ตันประภา รองเสนาธิการทหารเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เศรษฐากล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปว่า ขอให้เพิ่มในเรื่องความปลอดภัยทุกด้าน เพราะความปลอดภัยเรียกว่าเป็นปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ในฐานะที่ตนมาจากภาคเอกชนในอดีต ได้ดูพระราชพิธีอันสมพระเกียรตินี้มาโดยตลอด และรู้สึกภาคภูมิใจ เห็นถึงความสวยงามอลังการ ถือเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณอธิบดีกรมศิลปากรด้วย ที่พยายามตอบรับให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการท่องเที่ยว พร้อมสั่งการให้ประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ช่วยบรรจุการชมขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคเข้าไปในตารางการโปรโมต
เศรษฐากล่าวอีกว่า หากมีการเก็บภาพระหว่างที่ดำเนินการพัฒนาเรื่องเหล่านี้ ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่เราซ่อมแซมหรือการจัดงานใหญ่ในครั้งนี้เอาไปประกอบกับในวันงาน จะดูยิ่งใหญ่อลังการมาก และเหมาะสมที่จะเก็บภาพไว้ใช้โปรโมตเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยมีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ยืนยันไม่มีชาติใดในโลกนี้มี จึงฝากสำนักนายกรัฐมนตรีช่วยบริหารจัดการตรงนี้ด้วย
ให้กำลังใจฝีพาย 867 นาย
จากนั้นเศรษฐาตรวจติดตามการซ่อมแซมการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พร้อมกล่าวว่า ขอชื่นชมและมีความภาคภูมิใจ ปลื้มปีติ และยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ ทั้งยังได้สอบถามถึงงบประมาณว่าเพียงพอหรือไม่
ก่อนจะเดินทางไปยังบ่อพักเรือ แผนกเรือราชพิธี เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมและการสาธิตการพายประกอบการเห่เรือพระราชพิธีของกำลังพลฝีพายเรือพระราชพิธี พร้อมให้กำลังใจกำลังพลฝีพาย จำนวน 867 นาย
เศรษฐากล่าวมอบโอวาทว่า พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีความสำคัญ และหน้าที่ที่ทุกท่านได้รับผิดชอบเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้กำลังพลทุกคนภาคภูมิใจและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การจัดพระราชพิธีฯ เป็นไปได้อย่างสมพระเกียรติสูงสุด
ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคตุลาคมนี้
สำหรับการดำเนินการในส่วนของกรมศิลปากรจะเป็นการตกแต่งรายละเอียด เช่น วาดลวดลาย ติดกระจกเกรียบกระจกสีทำจากแร่ดีบุก ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ก่อนจะอัญเชิญเรือพระที่นั่งลงน้ำ เพื่อเตรียมการในส่วนของการฝึกซ้อมฝีพาย
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2567 กองทัพเรือได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จัดแสดงแบบผูกทุ่น ประกอบกาพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ณ บริเวณท่าราชวรดิฐ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ในส่วนการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ใช้เรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น 2,200 นาย และงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567