วันนี้ (2 เมษายน) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทำงานด้วยความช่วยเหลือกัน ไม่ขัดแย้ง และเสนอคณะรัฐมนตรีในทุกมาตรการ
โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการรองรับทางเศรษฐกิจ โดยต้องพิจารณาอย่างรอบด้านครบถ้วน เช่น ตราสารหุ้น การบรรเทาหนี้ การดำเนินการระบบภาษี ลดภาษี เมื่อสถานการณ์ยุติต้องมีมาตรการเพื่อการฟื้นฟูด้านการลงทุนต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งนี้การดำเนินการในส่วนของงบประมาณต้องเป็นการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งค่อนข้างมีขั้นตอนละเอียดและต้องใช้เวลา
ในส่วนของสินค้าทางการแพทย์ เตียง หน้ากาก N95 และชุด PPE นายกรัฐมนตรีสั่งการให้จัดหาให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนการนำเข้าสินค้าทางการแพทย์มีขั้นตอนในการดำเนินการ แต่เรื่องภาษีนำเข้าได้รับการแก้ไขแล้ว การจะซื้อสินค้าผ่านระบบ G to G เช่น ประเทศจีน มีขั้นตอนที่ประเทศจีนจะต้องรับรองบริษัทจึงจะผ่านระบบได้ จึงเป็นส่วนที่ต้องทำความเข้าใจกับสังคม ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่าได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริหารจัดการด้านการขนส่งและกระจายหน้ากากอนามัยผ่านระบบการสื่อสารเพื่อให้หน้ากากอนามัยถึงปลายทางโดยเรียบร้อย
นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจกับประชาชนในการดำเนินการส่วนหนึ่งส่วนใด มีกฎระเบียบ ขั้นตอน รายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องร่วมพิจารณา เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อส่วนรวมได้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานสร้างความเข้าใจกับประชาชนผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของรัฐ เช่น เพจไทยคู่ฟ้า ไม่ให้เกิดการบิดเบือนหรือเป็นประเด็นทางโซเชียลมีเดีย
ในส่วนของผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล ยังรวมกลุ่มนั่งดื่ม ขอให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายพิจารณาลงโทษอย่างจริงจังเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด
การเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ชะลอการเดินทางจากต่างประเทศจนถึงวันที่ 15 เมษายน เพื่อเตรียมพื้นที่ State Quarantine และเพื่อให้ทุกคนผ่านการประเมินทางสุขภาพอย่างครบถ้วน ในการเดินทาง ผู้เดินทางต้องมีเอกสารกรอกข้อมูลการเข้าประเทศ ผ่านการประเมินสุขภาพ มีเอกสาร Fit to Fly และสั่งการให้ ศบค. นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนให้ถี่ถ้วน เพราะเมื่อเดินทางเข้าประเทศมาแล้วจะต้องหามาตรการมาควบคุมให้รัดกุม แก้ปัญหาบุคคลเสี่ยงที่หายไประหว่างเดินทางไปยังสถานที่ Quarantine หรือที่พัก ส่วนการกลับประเทศไทยของกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ขอให้ชะลอตามที่แจ้งข้างต้น และพิจารณาพื้นที่รองรับการทำ State Quarantine สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบไปยังต้นทางการเดินทางว่ามีนักเรียนจำนวนเท่าไร จัดให้ทยอยกลับเพื่อให้พื้นที่รองรับสู่ State Quarantine เพียงพอ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีถึงความกังวลของนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองที่อยากเดินทางกลับประเทศ จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยร่วมดูแลให้มีแนวทางรองรับที่ชัดเจน
สำหรับมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยควบคุมด่านไม่ให้เกิดความแออัด ซึ่งขณะนี้ด่านทางบกปิดหมดแล้ว แต่ยังมีคนมารอเข้าออก และควบคุมพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด กระทรวงมหาดไทยแจ้งด้วยว่าพร้อมดำเนินการสร้างความเข้าใจกับประชาชนผ่านหอกระจายข่าว
ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแจ้งเรื่องการยกระดับมาตรการในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยกำหนดเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ยกเว้นผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ การขนส่งเวชภัณฑ์ การขนส่งผู้ป่วย การขนส่งด้านพลังงาน และการขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์