×

เปิดวิสัยทัศน์ 3 สว. ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ‘มงคล’ ระบุ มาจากก้อนดิน เข้าใจความยากจน พร้อมทำงานเพื่อประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
23.07.2024
  • LOADING...

วันนี้ (23 กรกฎาคม) ที่ห้องประชุมจันทรา ในการประชุมวุฒิสภาชุดที่ 13 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 ที่มี พล.ต.ท. ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภาผู้มีอาวุโสสูงสุดในสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว เพื่อเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ โดยมีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งสิ้น 3 คน ได้แก่ มงคล สุระสัจจะ, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ รศ. ดร.นันทนา นันทวโรภาส โดยแต่ละคนจะต้องแสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที และลงคะแนนเป็นการลับ

 

ล่าสุดผลการลงคะแนนมีดังนี้ มงคลได้ 159 คะแนน, เปรมศักดิ์ได้ 13 คะแนน และ รศ. ดร.นันทนา ได้ 19 คะแนน โดยที่มงคลได้คะแนนสูงสุดและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่เข้าประชุม จึงถือว่าที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงคะแนนเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนที่ 13

 

เปิดวิสัยทัศน์ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา

 

เปรมศักดิ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสภาหมายเลข 1 กล่าวว่า วุฒิสมาชิกมาจาก 20 สาขาอาชีพ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากถึงอาชีพที่มาที่ไม่ตรงปก รวมถึงมีการครอบงำจากบางกลุ่ม ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นผลดีต่อสมาชิกทั้ง 200 คน ตนจึงมุ่งมั่นที่จะอาสามาดำรงประธานวุฒิสภา เพื่อที่จะแก้ไขภาพลักษณ์ของวุฒิสภาให้เป็นสภาที่ทรงเกียรติ เป็นสภาที่ประชาชนคาดหวังได้

 

หากเรากลัดกระดุมผิดเม็ด มันจะผิดไปทั้งหมด เราต้องเป็นอิสระและเป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองจากฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน 5 ปีหลังจากนี้ หากเราเลือกที่จะเป็นกลาง ก็จะได้รับการชื่นชมจากประชาชนอย่างแน่นอน แต่หากเราเลือกอีกด้านหนึ่ง ก็จะถูกตราหน้าว่าสภาใบสั่ง สภาโหวต สภาหวยล็อก สภาล็อกโหวต 

 

เปรมศักดิ์กล่าวต่อว่า กลไกสำคัญของวุฒิสภาคือการกลั่นกรองกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการตรวจสอบและควบคุมฝ่ายบริหาร โดยใช้กฎหมายที่มาจากผู้แทนราษฎร ไม่มีการชี้นำ ไม่ว่าจากพรรคการเมืองใด ประเด็นที่สอง องค์กรอิสระต้องไม่มีใบสั่งว่ามาจากบ้านไหนหรือผู้ยิ่งใหญ่คนใด องค์กรอิสระจะไร้ความหมาย เกิดปัญหาการยอมรับจากประชาชนอย่างที่ผ่านมา

 

ประเด็นที่สาม การตั้งกระทู้สดเป็นอาวุธสำคัญของ สว. ในการควบคุมการบริหารของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องตอบกระทู้สดด้วยตนเอง ไม่ใช่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยมาตอบ ต้องยืนยันศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ดำรงไว้ในการควบคุมรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ

 

ขณะที่ รศ. ดร.นันทนา สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสภาหมายเลข 2 กล่าวว่า ภาพลักษณ์วุฒิสภาประชาชนไม่ไว้วางใจและไม่ศรัทธา เราจะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของ สว. ยุคใหม่ ให้ประชาชนทั้งประเทศรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ สว. เราต้องยึดโยงกับประชาชนที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนของเราด้วยแนวทาง 5 ส. ได้แก่ สัมพันธ์ สื่อสาร สร้างสรรค์ สมดุล และสากล

 

  1. สัมพันธ์ ต้องยึดโยงกับประชาชนทุกคนทุกกลุ่ม สร้างความรู้สึกผูกพัน เป็นเจ้าของ และสามารถรับฟังการประชุมสภาได้ ทุกข้อร้องเรียนจะนำไปสู่การแก้ไข เป็นวุฒิสภาเชิงรุก
  2. สื่อสารการทำงานของ สว. ผ่านถ่ายทอดสดการประชุมสภาและการประชุมกรรมาธิการทุกคณะ จัดแถลงผลการทำงานและตอบทุกคำถามของสื่อมวลชน ยึดหลัก สว. รู้อะไร ประชาชนรู้อย่างนั้น
  3. สร้างสรรค์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้เวทีถกเถียงประเด็นปัญหาสังคม สะท้อนปัญหา และต้องได้ข้อยุติ มีอำนาจในการเรียกเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองทุกระดับ ตั้งแต่หัวหน้ารัฐบาล มาให้ปากคำ ตอบกระทู้ โดยให้ความเคารพต่อสถาบัน และไม่เบี่ยงหลบเลี่ยงเช่นที่ผ่านมา
  4. สมดุล เปิดกว้างให้กับทุกศาสนา ความหลากหลายทางเพศ ทุกเชื้อชาติ โดยไม่กีดกันแบ่งแยก สภาคือพื้นที่แห่งความเท่าเทียมกัน ทุกคนมีส่วนร่วมกับสภา
  5. สากล องค์กรระดับประเทศต้องมีระเบียบ เป็นประชาธิปไตย ตามมาตรฐานสากล เป็นแบบอย่างประเทศในอาเซียน ทำให้ประเทศไทยยืนอย่างสง่างามบนเวทีโลก

 

รศ. ดร.นันทนา กล่าวว่า การตัดสินใจของสมาชิกจะเป็นการชี้อนาคตของวุฒิสภา เป็นตำนานในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ทุกพื้นที่ของรัฐสภาเป็นการเปลี่ยนแปลง 5 ปี จะไม่สูญเปล่า แต่จะเป็นสภาแห่งความหวัง สภาความศรัทธา มาร่วมทำให้วุฒิสภายุคใหม่เป็นสภาของประชาชน เป็นหนึ่งในเสาหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

ปิดท้ายด้วยมงคล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสภาหมายเลข 3 ได้แสดงวิสัยทัศน์โดยขอบคุณสมาชิกที่เสนอชื่อตน นับตั้งแต่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่งปลัดอำเภอ ตนสำนึกว่าแผ่นดินนี้ได้ให้โอกาสมากมาย จึงตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดิน รับใช้ประชาชน รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 

มงคลกล่าวว่า ตนยึดมั่นมาตลอดว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ซึ่งการทำงานของวุฒิสภาโดยมีประชาชนเป็นเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมาจะนำไปสู่สิ่งนั้นได้ จึงอยากเห็นสังคมไทยและคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เห็นต่างได้ แต่ต้องไม่สร้างความแตกแยก เราจะเริ่มต้นจากความเป็นหนึ่งเดียวของวุฒิสภา

 

“ชีวิตผมมาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นเด็กวัด เรียนอาชีวะ จึงเข้าใจความยากจนข้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นไม่มีสาย ผมเติบโตมาในระบบราชการด้วยการทำงานอย่างหนัก เต็มความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการประสานงานกับพี่น้องประชาชน คลุกคลีกับพี่น้องประชาชนทั้งในชนบทตลอดชีวิต เกษียณอายุราชการก็ไปทำไร่ในชนบท” มงคลกล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising