ถ้าทำให้มันดีขึ้นไม่ได้ ก็ช่วยยกเลิกมันไปเสียเลย
นี่คือความรู้สึกของนักเตะรวมถึงแฟนฟุตบอลลูกหนังอังกฤษจำนวนไม่น้อยที่มีต่อระบบช่วยตัดสินด้วยวิดีโอ หรือ Video Assistant Referee (VAR) ที่กลายเป็นประเด็นคาใจให้ถกเถียงก่นด่ากันตลอดหลังจบเกมการแข่งขันแทบทุกนัด
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า 20 สโมสรพรีเมียร์ลีกเตรียมหารือที่จะ ‘ยกเลิกการใช้ VAR’ ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำได้จริงหรือไม่ และกระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
พรีเมียร์ลีกเริ่มนำระบบ VAR เข้ามาใช้ช่วยตัดสินเป็นครั้งแรกในปี 2019 ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมาจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว
ปัญหาคือ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา VAR ไม่ได้ช่วยให้มาตรฐานการตัดสินนั้นถูกต้องและเที่ยงธรรมขึ้น ในทางตรงกันข้ามทุกอย่างกลับดูยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ 2023/24 การตัดสินของ VAR เข้าขั้น ‘ติดลบ’ อย่างหนักหน่วงมาก จากการตัดสินจำนวนมากที่นอกจากจะไม่ได้ช่วยจัดการจังหวะ ‘ที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างชัดเจน’ (Clear and Obvious Error) อย่างที่ควรจะเป็นแล้ว ยังสร้างความคลางแคลงใจในการตัดสินอยู่ตลอดเวลา
การที่พรีเมียร์ลีกต้องจัดทำรายการ Mic’d Up เพื่อให้ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน PGMOL ได้มาชี้แจงแถลงไขถึงการตัดสินด้วย VAR ในหลายจังหวะที่มีความกังขา ก็เป็นเรื่องที่สะท้อนอะไรให้เห็นหลายอย่างอยู่แล้ว
ปัญหาและความไม่พอใจต่างๆ หมักหมมและสะสมมาจนถึงจุดที่มีการเสนอวาระขึ้นมา
ถ้า VAR ช่วยให้ดีขึ้นไม่ได้ ก็ยกเลิกมันไปเลย!
ทำไมต้องยกเลิก VAR?
วาระนี้เป็นวาระที่มีการเสนอขึ้นจริงๆ โดยทีมที่ยื่นเรื่องเข้ามาสู่ที่ประชุมพรีเมียร์ลีกคือ ทีมวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเรื่องนี้
“หลังจากที่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนบนความเคารพสูงสุดต่อพรีเมียร์ลีก และ PGMOL รวมถึงเพื่อนร่วมลีกแข่งขันของเราแล้ว เราไม่ต้องการที่จะกล่าวโทษใคร เราแค่ต้องการมองหาทางออกที่ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้สำหรับเกมฟุตบอล และทุกฝ่ายกำลังพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เทคโนโลยีที่มีการนำมาใช้ประสบความสำเร็จ
“แต่หลังผ่านมา 5 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก มันถึงเวลาแล้วที่เราควรจะมีการหารือแลกเปลี่ยนกันอย่างตรงไปตรงมาถึงอนาคตของมัน จุดยืนของเราคือ ราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อแลกกับความแม่นยำขึ้นเล็กน้อยด้วยจิตวิญญาณของเกมฟุตบอล และจากผลที่เห็นเราควรที่จะถอดถอนมันออกไปนับตั้งแต่ฤดูกาล 2024/25 เป็นต้นไป”
โดยที่วูล์ฟสมีการแจกแจงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้ VAR อย่างละเอียดยิบ
- ผลกระทบต่อการฉลองประตูและความรู้สึกในช่วงเวลาที่ทำให้ฟุตบอลพิเศษกว่ากีฬาอื่น
- ความหงุดหงิดและสับสนที่เกิดขึ้นในสนามจากการที่ VAR ใช้เวลาเช็กยาวนานโดยที่การประสานงานเป็นไปอย่างย่ำแย่
- ทำให้เกิดบรรยากาศการต่อต้าน มีการประท้วง การโห่เพลงประจำพรีเมียร์ลีก และการร้องเพลงต่อต้าน VAR
- มีการใช้ VAR มากเกินกว่าวัตถุประสงค์หลักที่ระบุว่าจะใช้กับเหตุการณ์ที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นชัดเจน ตอนนี้กลายเป็นมีการตัดสินจังหวะเหตุการณ์มากจนเกินไป
- ลดทอนความน่าเชื่อถือของผู้ตัดสินในสนาม เกิดความลักลั่นของอำนาจการตัดสินที่อยู่ในสนาม
- ขนาดใช้ VAR ก็ยังมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเต็มไปหมด แฟนๆ ไม่สามารถที่จะยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ได้หลังจากที่ได้เห็นภาพช้าจากหลายมุม ยังส่งผลต่อความมั่นใจที่มีต่อมาตรฐานการตัดสิน
- ทำลายความเร็วในเกมของพรีเมียร์ลีกด้วยการใช้เวลาเช็ก VAR ที่ยาวนาน และทำให้เกิดการทดเวลาเพิ่ม ทำให้แมตช์การแข่งขันยืนยาวกว่าที่ควรจะเป็น
- VAR กลายเป็นประเด็นหลังเกมเสียเองมากกว่าแมตช์การแข่งขัน ทำลายชื่อเสียงของลีก
- ทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงที่สั่งสมมา VAR ทำให้เกิดการกล่าวหาอันไร้สาระเกี่ยวกับเรื่องของการคอร์รัปชัน
VAR ยกเลิกได้จริงหรือไม่?
ทางด้านโฆษกพรีเมียร์ลีกออกแถลงยืนยันว่า จะมีการหารือกันในวาระนี้ในการประชุมสามัญประจำปีที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
เพียงแต่พรีเมียร์ลีกยืนยันว่าสนับสนุนการใช้ VAR เหมือนเดิม และ PGMOL จะพยายามพัฒนาการตัดสินให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อเรื่องเข้าวาระที่ประชุมแล้ว ก็จะมีการหยิบมาพูดคุยกันในกลุ่มผู้ถือหุ้นพรีเมียร์ลีกซึ่งก็คือ 20 สโมสรของฤดูกาล 2024/25 ซึ่งจะรวมถึงทีมน้องใหม่จากเดอะแชมเปียนชิปอย่างเลสเตอร์ ซิตี้, อิปสวิช ทาวน์ และอีกหนึ่งทีมที่กำลังลุ้นอยู่ว่าจะเป็นใคร
คำถามสำคัญว่ายกเลิก VAR ได้จริงไหม?
คำตอบคือยกเลิกได้จริง!
แต่จะต้องมีผู้ยกมือเห็นชอบด้วยจำนวนเสียงมากกว่า 2 ใน 3 หรือ 14 ทีมขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้
ในยุโรปเอง ลีกสวีเดนนำร่องในการต่อต้านการใช้ VAR เป็นลีกแรกของยุโรปผ่านการลงประชามติของบรรดาสมาชิกสโมสรฟุตบอล ซึ่งสุดท้ายมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ต้องการให้มีการใช้ VAR ในการตัดสินฟุตบอลภายในประเทศสวีเดน
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการยกเลิก VAR เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากในตอนนี้ โดยความเห็นในวงการฟุตบอลอังกฤษมองกันว่าการยกเลิก VAR ไม่น่าใช่ก้าวเดินที่ถูกต้อง
การทำเช่นนั้นยังอาจจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของพรีเมียร์ลีกในหมู่ลีกระดับชั้นนำของยุโรปด้วยกัน และการยกเลิก VAR จริงก็จะเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่ที่จะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินในสนาม และยิ่งทำให้แฟนฟุตบอลไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่เป็นความหวังสำหรับพรีเมียร์ลีกคือ ระบบช่วยตัดสินใหม่ Semi-Automated Offside Technology (SAOT) ที่มีการโหวตให้นำมาใช้กับพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป รวมถึงการให้ผู้ตัดสินชี้แจงการตัดสิน VAR เพื่อความโปร่งใสมากขึ้น
และตัวเลขที่น่าสนใจคือ นับตั้งแต่มีการนำ VAR มาใช้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตัวเลขการตัดสินถูกต้อง (Correct Decisions) ในพรีเมียร์ลีกเพิ่มขึ้นจาก 82 เปอร์เซ็นต์ มาถึง 96 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้
อ้างอิง: