พรีเมียร์ลีกกับการเตรียม ‘ซ้อมเฟสแรก’ อะไรที่ทำได้บ้าง และอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง?

ถึงจะมีประเด็นขัดแย้งบางประการ อาทิ การแข่งขันสนามเป็นกลาง เรื่องเกณฑ์การเลื่อนชั้น-ตกชั้น ไปจนถึงความปลอดภัยในชีวิตของนักฟุตบอล แต่ดูเหมือนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเริ่มใกล้เคียงกับการที่จะกลับมาทำการแข่งอีกครั้งแล้ว

ก้าวต่อไปคือการกลับมาลงสนามฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ในวันจันทร์หน้า (18 พฤษภาคม)

แน่นอนว่ามาถึงขั้นตอนนี้ ทุกสโมสรย่อมได้รับมาตรการในการบริหารจัดการฝึกซ้อมภายใต้สถานการณ์ที่ต้อง ‘ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด’ เพื่อไม่ให้โควิด-19 รุกล้ำเข้ามาได้อีกครั้ง

มีอะไรที่สโมสรและนักฟุตบอลต้องปฏิบัติตามบ้าง อะไรที่ทำได้ และอะไรที่ทำไม่ได้? นี่คือสิ่งที่อยู่ในเอกสารที่พรีเมียร์ลีกส่งต่อให้กับทุกสโมสรสำหรับการซ้อมใน ‘เฟสแรก’

สิ่งที่ต้องทำ

อุปกรณ์ในสนามซ้อมทุกชิ้นทุกอย่างตั้งแต่มุมธง (Corner-Flags), ลูกฟุตบอล, กรวย, เสาประตู รวมถึงพื้นผิวสนาม (สนามหญ้าเทียม-สนามหญ้าจริง) จะต้องได้รับการฆ่าเชื้อทุกเซสชันของการฝึกซ้อม
นักฟุตบอลจะต้องปฏิบัติตาม ‘กระบวนการคัดกรองสุขภาพ’ ด้วยการเข้ารับการตรวจหาเชื้อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และจะต้องมีการลงทะเบียนเปิดเผยผลการตรวจ (ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของนักฟุตบอลและสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ)
ก่อนการฝึกซ้อมทุกวันจะต้องทำการตอบแบบสอบถาม (ว่าไปไหนมาบ้าง อยู่กับใครบ้าง) และมีการตรวจวัดอุณหภูมิ
เจ้าหน้าที่จะต้องมีการสวมชุด PPE ในการปฏิบัติการ
มีการแจ้งกับนักฟุตบอลว่า ถึงแม้โควิด-19 อาจจะทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อย แต่จะมีการพิจารณาถึงการติดเชื้อในมุมอื่นก่อนที่นักฟุตบอลจะกลับมาทำการฝึกซ้อมแบบเข้มข้นในขั้นตอนต่อไป
จากข้อข้างต้นจะมีการตรวจประเมินอาการเป็นการเฉพาะสำหรับนักฟุตบอลที่มีโรคประจำตัว อาทิ การตรวจหัวใจ หรือปอดที่มีความซับซ้อน

สิ่งที่ห้ามทำ

ห้ามทำการเข้าเสียบสกัดบอลเด็ดขาด!
ห้ามโดยสารมาซ้อมด้วยกัน (ปกติแล้วนักฟุตบอลบางคนจะมาซ้อมพร้อมกับเพื่อน โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งย้ายมาเล่นใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคย)
จะต้องมีการทำความสะอาดรถยนต์ส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ
ห้ามใช้บริการรถสาธารณะ หรือใช้บริการรถของทีมเด็ดขาด
ห้ามใช้พื้นที่ส่วนกลางของสโมสร ยกเว้นยิมและห้องพยาบาล

หากทุกคนผ่านสเตปแรกไปได้ด้วยดี จะนำไปสู่การซ้อมในเฟสต่อไป คือการซ้อมแบบกลุ่มใหญ่ การซ้อมแบบฟูลทีม ซึ่งจะเป็นการซ้อมแบบสัมผัสตัวได้ตามปกติ และสุดท้ายคือการกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้ง ที่คาดหวังว่าจะเริ่มต้นได้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้

อาจจะเป็นก้าวที่ช้าๆ เตาะแตะนิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็ได้เดินไปข้างหน้าบ้างแล้ว

มีใครคิดถึงพรีเมียร์ลีกบ้างไหม?

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI

เอกสารทั้งหมดมีความยาว 40 หน้า โดยมีรายละเอียดทุกอย่างในการปฏิบัติของทั้งสโมสรและนักฟุตบอล รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ
ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (Office for National Statistics) ระบุว่าในอังกฤษและเวลส์ ชายและหญิงผิวสีมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนผิวขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่นักฟุตบอลผิวสีมีความกังวลใจ
ในวันนี้จะมีการหารือกันระหว่างตัวแทนนักฟุตบอล (กัปตันทีม), ตัวแทนจากพรีเมียร์ลีก, สตาฟฟ์ทางการแพทย์ และสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของนักฟุตบอล
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส ในเดนมาร์ก ระบุว่าโอกาสจะมีการแพร่เชื้อหรือติดเชื้อในการเล่นฟุตบอลแทบเป็นไปไม่ได้