พรีเมียร์ลีกแจ้งต่อ 20 สโมสรในลีกว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สนามเป็นกลาง 8-10 แห่ง และจะมีการจัดหาชุดทดสอบการติดเชื้อจำนวน 40,000 ชุด เพื่อให้สามารถแข่งจนจบฤดูกาลให้ได้
ในการประชุมใหญ่พรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลาในการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง สโมสรต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมทางไกลได้ยืนยันที่จะแข่งขันต่อให้จบฤดูกาล แต่ยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาใดๆ ในขณะนี้ โดยระบุเพียงว่า จะกลับมาแข่งขันต่อเมื่อมีความปลอดภัยมากพอสำหรับทุกฝ่ายเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในการประชุมพรีเมียร์ลีกได้มีการแจ้งเกี่ยวกับแผนการที่จะกลับมาแข่งขันภายใต้ชื่อ ‘Project Restart’ โดยประเด็นสำคัญที่สุดคือ การตัดสินใจที่จะให้แข่งขันในสนามแข่งที่เป็นกลาง เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่จะมีแฟนบอลมารวมตัวกัน โดยจะมีการเตรียมสนามแข่งเป็นกลางจำนวน 8-10 แห่ง ซึ่งจะทำให้ไม่มีสโมสรใดที่ได้ใช้สนามเหย้าของตัวเองเลย
นั่นหมายถึงการที่สโมสรอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นว่าที่แชมป์ อาจจะไม่ได้ทำการฉลองแชมป์ที่สนามแอนฟิลด์ด้วย โดยเหตุผลอีกประการคือ การที่รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ใช้สนามทั้ง 20 แห่งในสถานการณ์นี้ สำหรับการเลือกสนามจะเป็นการตัดสินใจของตำรวจและหน่วยงานการรักษาความปลอดภัยของสนามกีฬา โดยมีการเน้นย้ำว่า การใช้สนามเป็นกลางคือทางออกเดียวที่จะสามารถแข่งขันได้จนจบฤดูกาล ซึ่งยังเหลือเกมอีก 92 นัด
ในการประชุมมีสโมสรเกือบ 10 แห่ง ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้สนามเป็นกลาง ซึ่งจะขัดต่อหลักการแข่งฟุตบอลลีก โดย พอล บาร์เบอร์ ประธานบริหารของทีมไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ได้เคยแสดงความกังวลก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากทีม ‘นางนวล’ ซึ่งมีคะแนนเหนือโซนตกชั้น 2 แต้ม แต่ยังมีเกมในบ้าน 4 จาก 5 นัด ที่ต้องเจอทีมที่แข็งแกร่งอย่างอาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ซึ่งการไม่ได้เล่นในบ้านทำให้สูญเสียความได้เปรียบที่พึงมีไป
ขณะเดียวกันในการปฏิบัติตามแนวทางในการป้องกันโควิด-19 พรีเมียร์ลีกจะมีการจัดเตรียมหาชุดทดสอบการติดเชื้อจำนวน 40,000 ชุด เพื่อใช้สำหรับการทดสอบนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ทุกคน แต่ปัญหาใหญ่ในเวลานี้คือ การที่นักฟุตบอลจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความกังวลและไม่ต้องการเผชิญกับความเสี่ยงที่จะติดโรคโควิด-19 หากกลับมาลงฝึกซ้อมและแข่งขันฟุตบอลในเวลานี้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทางฝ่ายสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) รวมถึงสมาคมผู้จัดการทีม (LMA) จะต้องให้คำปรึกษาดูแลในเรื่องนี้
การประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมนัดที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะต้องหาข้อตกลงให้ได้ว่าจะกลับมาแข่งขันได้เมื่อไร ก่อนจะกำหนดกรอบระยะเวลาในการกลับมาแข่งขันอีกครั้ง โดยตามแผนเดิมคือจะมีการแบ่งระยะการฝึกซ้อมเป็น 3 ระยะ จากการซ้อมกลุ่มเล็กที่ไม่มีการสัมผัส, การซ้อมกลุ่มแรกที่มีการสัมผัส และการซ้อมกลุ่มใหญ่ที่มีการสัมผัส ซึ่งหวังจะเริ่มในวันที่ 18 พฤษภาคม ก่อนจะกลับมาแข่งขันได้วันที่ 8 มิถุนายน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: