ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังมีการชุมนุมปราศรัยของกลุ่มประชาชนปลดแอกที่ถนนราชดำเนินวานนี้ (16 สิงหาคม) และมีขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งพร้อมไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่าสุดโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศมีการชูสามนิ้วในโรงเรียน ปรากฏว่าเช้าวันนี้ (17 สิงหาคม) ก่อนเดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยรถเบนซ์กันกระสุน ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางขึ้นด่วนดินแดงเพื่อมาลงที่ด่วนยมราช ปรากฏว่าได้มีรถยนต์เก๋ง Honda Accord รุ่นเก่า สีเขียวอมฟ้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร
โดยเมื่อทราบว่าเป็นขบวนของ พล.อ. ประยุทธ์ ก็ได้พยายามที่จะขับประกบ โดยเปิดไฟฉุกเฉินพร้อมบีบแตรไล่เป็นระยะ แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน โดยรถยนต์คันดังกล่าวมีคนขับรถเป็นผู้ชายวัยกลางคน ขับมาเพียงคนเดียว โดยขับตามประกบและบีบแตรไล่ตลอดทาง แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามที่จะกันไม่ให้เข้าใกล้ขบวนของนายกรัฐมนตรีก็ตาม โดยรถเก๋ง Honda Accord คันดังกล่าวก็พยายามขับตามมาจนถึงทางลงด่วนยมราช เจ้าหน้าที่จึงสะกัดอีกครั้ง แต่ก็ยังขับตามไปจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณแยกพาณิชย์ และขับตรงเลยไปยังถนนราชดำเนินและหายไปในที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เพื่อตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครและมีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งล่าสุดทางสันติบาลได้เช็กข้อมูลและทราบแล้วว่าผู้ขับเป็นใคร โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกภายหลังเกิดการชุมนุมต่อต้านของกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ พล.อ. ประยุทธ์ เจอซึ่งหน้ากับคนที่ไม่เห็นด้วยและแสดงออกถึงการต่อต้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง และเกิดเหตุการณ์มีรถบีบแตรไล่ เป็นที่น่าสังเกตว่าการปฏิบัติภารกิจวันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเมื่อเวลา 13.30 น. ระหว่างที่ พล.อ. ประยุทธ์ เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ’ (Thailand Education Eco-System) และการแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการศึกษาไทย ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เป็นที่น่าสังเกตว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูง โดยมีการตั้งจุดตรวจผู้เข้าพื้นที่งานหลายจุด เริ่มจากเจ้าหน้าที่อาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยอีโอดี ตรวจวัตถุสิ่งแปลกปลอม ต่างจากก่อนหน้านี้จะตั้งจุดตรวจเพียวจุดเดียว
นอกจากนี้ทีมรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นทหารนอกเครื่องแบบประจำตัวนายกรัฐมนตรี ได้มีการเพิ่มจำนวนและเดินตรวจตราบริเวณโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวตลอดเวลา ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้ให้ทีมงานออกมาเรียกผู้สื่อข่าวให้เข้าไปนั่งฟังการแสดงวิสัยทัศน์ในห้องที่จัดงานด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกองสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่าไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง โดยให้นั่งฟังผ่านจอ โปรเจกเตอร์ที่มีการแพร่ภาพให้สื่อติดตาม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
