พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงปัญหาเด็กไทยติดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบได้ตั้งแต่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงวัยรุ่น โดยกว่าร้อยละ 50 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีการสำรวจ หยิบโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแรกหลังตื่นนอน และยังใช้โทรศัพท์เป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนเข้านอน ส่งผลให้เกิดอาการสมาธิสั้น การใช้สมองในส่วนความทรงจำลดลง และอารมณ์มีแนวโน้มรุนแรงฉุนเฉียวง่ายขึ้น
“พ่อแม่ผู้ปกครองมักจะระมัดระวังป้องกันอันตรายภายนอกบ้านไม่ให้เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตน แต่อาจมองข้ามภัยจากโทรศัพท์มือถือที่คืบคลานเข้ามาถึงในบ้านแม้กระทั่งในห้องนอน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือกำหนดเวลาให้เด็กเล่นโทรศัพท์ไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง พาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น และหมั่นเอาใจใส่ดูแลสอดส่องพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยา”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าสัปดาห์นี้โรงเรียนจะเปิดเทอมแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองและครูจึงต้องตระหนักในเรื่องนี้และช่วยเด็กวางแผนการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องเรียนและการพัฒนาทักษะอื่นๆ โดยปัญหาเด็กติดโทรศัพท์นั้นมีให้เห็นจริงรอบตัวเรา และยังสะท้อนออกมาในรูปแบบของละครสอนใจ เช่น วัยแสบสาแหรกขาด ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า