ปี่กลองทางการเมืองเริ่มโหมโรงส่งสัญญาณนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง แต่ในขณะเดียวกัน สัญญาณความไม่แน่นอนว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นไม่เกินวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ตามที่ คสช. ให้คำมั่นไว้นั้นก็เริ่มปรากฏให้เห็น
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้ โดยขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหยุดพูดจาสร้างความวุ่นวาย
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายคนที่ออกมาพูดด้วยความหวังดีและไม่หวังดี ขอร้องว่าในเมื่อทุกคนอยากให้เดินหน้าตามขั้นตอนไปสู่การเลือกตั้งตามกำหนดการในโรดแมปก็อย่าพูดอะไรที่สร้างความเสียหายให้มากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วความรับผิดชอบทั้งหมดตกมาอยู่ที่รัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีแค่หน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่ยังมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับคนอื่นด้วย รัฐบาลจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าไปสู่การมีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์
“ผมขอฝากคำถามให้ทุกคนช่วยคิดกันต่อว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไรหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว ก็หวังว่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ปัญหาใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นแล้วต้องได้รับการแก้ไข ถ้ามีสิ่งใดที่บอกว่าผมทำไม่ดี ท่านต้องทำให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยแล้วกลับไปสู่แบบเดิมๆ ประชาชนเข้าใจแบบเดิมๆ เป็นอย่างนี้ไม่ได้ เราต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าควรแก้ปัญหาของประเทศอย่างไร ถ้าปล่อยให้มีการโจมตีกันไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมไม่ใช่ศัตรูของท่าน ผมเป็นคนไทย ท่านก็เป็นคนไทย ดังนั้นการเป็นคนไทยต้องทำให้ประเทศไทยมั่นคง มีเสถียรภาพ จึงจะไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไปในอนาคต” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ เปิดเผยด้วยว่าจะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กลับไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือไม่
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองต่างๆ เรียกร้องให้แก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองนั้น พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่ากำลังพิจารณาอยู่
สำหรับปัจจัยชี้ขาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามกรอบเวลาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะยื่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือไม่
ซึ่งกรอบเวลาการพิจารณาของศาลฯ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถกำหนดชัดเจนได้ และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขัดรัฐธรรมนูญก็จะต้องทำการร่างกฎหมายลูกฉบับนี้ใหม่ และส่งผลให้โรดแมปต้องเลื่อนออกไป
Photo : Thaigov.go.th
