ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวถึงกรณี 5 พรรคเล็ก ประกาศแยกตัวจากรัฐบาลว่า เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป ไม่ใช่สักแต่พูดไปวันๆ ซึ่งตนกับพรรคเล็กเป็นพี่น้องกันมาตลอด ทั้งนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติของนักการเมือง ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ส.ส. ทุกคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เราไม่สามารถไปบังคับใครได้ ส่วนเสถียรภาพในการทำงานของรัฐบาลนั้นก็คงไม่กระทบ ไม่ปริ่มนำ้ เพราะตนดูแลตรงนี้อยู่ แต่บางเรื่องบางราวนั้นตนคงพูดไม่ได้ แต่พี่น้องที่มาร่วมรัฐบาลกันก็ควรต้องฟังเขาบ้าง ซึ่งตนไม่ได้เข้าข้าง 10 พรรคเล็ก แต่ควรต้องฟังเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ฟังอะไรเลย จะทำอะไรก็ทำ ถ้าไม่แคร์เสียงเล็กเสียงน้อย ก็ต้องไปแก้ปัญหาเอาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ได้หมายถึงใคร แต่หมายถึงสิ่งที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ รู้สึกอึดอัดใจ ส่วนจะนำไปหารือกับเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ขณะนี้ตนเป็น รมช. เกษตรฯ ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องในสภาฯ ก็เป็นเรื่องของกลไกสภาฯ อย่างไรก็ตาม 10 พรรคเล็กก็คงต้องฟังเขาบ้าง ถ้าไม่ฟังเลยวันหนึ่งคุณอาจจะเสียใจ ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าตนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ควรให้ความสำคัญกับทุกคน อย่าลืมว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ 10 พรรคเล็กเป็นกำลังสำคัญ
เมื่อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสำคัญกับ 10 พรรคเล็กใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า คงต้องฟังมงคลกิตติ์ว่าอึดอัดใจอะไร ตนไม่ได้เข้าข้าง แต่เขาเสียสละมามากพอแล้ว ควรให้ความสำคัญกับเขาบ้าง เขาเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับใคร คนคนนั้นควรจะรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า เขาคงไม่ไปไหน เดี๋ยวก็ปรับความเข้าใจกัน ส่วนกรณีที่มงคลกิตติ์ระบุว่า แก้วที่มันร้าวแล้วต่อติดยากนั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า แก้วร้าวแล้วก็เอามาหลอมใหม่ ส่วนจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ตนบอกแล้วว่าต้องรู้จักให้เกียรติเขา
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่หัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่ไม่ยอมรับฟังใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเวลานี้ตนไม่ได้ดูแลเรื่องประสานรอยร้าวกับพรรคไหน ถ้าเขาไม่สั่งตนก็ไม่ทำ ถ้าเขาสั่งตนถึงทำ ส่วนในฐานะที่ดูแลพรรคเล็กอยู่นั้น จะนำข้อเสนอไปหารือกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคหรือไม่นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคเล็กเขาทำข้อเสนอไปแล้วว่าเขาต้องการอะไร และส่งไปที่พรรคเรียบร้อยแล้ว ได้เจอกับผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่จะคุยอะไรก็ต้องพูดกับเขาให้ชัดเจน วันนี้มันจบแล้ว และทุกคนก็ส่งตัวแทนมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยกเว้น 10 พรรคเล็กที่ยังไม่ได้รับการดูแล
ส่วนทางออกของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ถ้าไม่ได้รับมอบหมาย ตนคงคุยอะไรโดยพลการไม่ได้ ต้องเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคที่ต้องไปแก้ปัญหา หรือรอให้มีนโยบายที่ชัดเจนก่อนว่า มอบหมายให้ตนไปคุยกับพรรคเล็ก อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนมาประชุมสภาฯ ไม่ได้มาเพื่อคุยกับใคร
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล