วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงการอภิปรายของ ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา ที่คนใกล้ชิด นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินในพื้นที่
พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า การจัดซื้อที่ดินสามารถทำได้ตามกฎหมาย ตรวจสอบตามขั้นตอน ไม่ใช่เอามาพัวพันกันไปหมดเรื่องผลประโยชน์ แต่ใครได้ประโยชน์ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ต้องว่าตามกฎหมาย ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ทับซ้อนหลายมิติทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ชาติพันธุ์ ศาสนา วัฒนธรรมประวัติศาสตร์ เป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่ ดังนั้นต้องแก้ปัญหาอย่างละเอียดอ่อน จึงได้มีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ซึ่งจากเดิมมี 3 จังหวัด และมาเพิ่มอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่มีปัญหาในขณะนี้
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการไปแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย นั่นคือการบริหารราชการในด้านนี้ ซึ่งไม่ใช่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้วจะเห็นผลทันที ต้องใช้เวลาในการพัฒนาพร้อมพัฒนาเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และการพัฒนาก็ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่ เกิดการพัฒนาศักยภาพในพื้นที่ ใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดความคุ้มค่า มีมูลค่า เป็นประโยชน์กับประชาชนในทุกพื้นที่ทุกภูมิภาค
และการที่จะให้เอกชนมาลงทุนในประเทศไทย อยู่ที่โครงสร้างพื้นฐานในประเทศ โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภค รัฐบาลได้ดำเนินการมาเป็นระยะ เช่นเดียวกับพื้นที่สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน ถ้ามีความพร้อมนักลงทุนก็พร้อมที่จะเข้ามา แม้จะมีที่ดิน ถ้าโครงสร้างไม่พร้อมก็ไม่มีใครเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ การลงทุนก็ต้องเกิดความโปร่งใส ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้การเปลี่ยนสีพื้นที่ก็ต้องขึ้นกับการทำประชาพิจารณ์ ตนพูดในนามนายกรัฐมนตรี และสั่งการทุกครั้งว่าการดำเนินการจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีกลไกลการตรวจสอบ แจ้งองค์กรอิสระตรวจสอบได้ และหน่วยงานก็ต้องตรวจสอบภายใน นั่นคือกติกาการทำงานอดีตและปัจจุบันที่เหมือนกัน ในสภาไม่ใช่ศาล ศาลอยู่ข้างนอก ทุกท่านพูดได้ทุกอย่าง ผิดถูก แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม หากไม่ทำสิ่งไหนให้ประเทศมีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปีไปเรื่อยๆ ประชาชนจะอยู่ไหวหรือไม่ ในเมื่อโลกและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น ส่วนตัวไม่อยากให้การพูดตรงนี้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงการพื้นที่อื่นอีกด้วย จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศด้วย ในขณะที่กำลังเร่งพัฒนาประเทศให้หลุดจากับดักรายได้ปานกลาง
“ถ้าทุกอย่างอยู่ที่เดิมทั้งหมด มันไม่มีทางไปได้ มีแต่ถอยหลัง ถอยหลัง ถอยหลัง เก็บกินของเก่าไปเรื่อย การทำของใหม่อาจมีปัญหาก็ต้องแก้กันไป จะมีทุจริตตรงไหนก็ต้องแก้ไป แต่อย่าทำให้โครงการขนาดใหญ่ที่เราริเริ่มไปแล้ว หรือจัดทำตามยุทธศาสตร์แล้วพังพินาศลงไปด้วย” พล.อ. ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่จะยืนนิ่งประมาณ 5 วินาที และกล่าวก่อนจบการชี้แจงว่า ตนคงแค่นี้ดีกว่า เพราะตอบไปก็ไม่ค่อยมีคนฟัง หัวเราะกันอยู่ ก่อนที่จะเดินลงออกจากเก้าอี้หลังจบการชี้แจง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล