วันนี้ (24 สิงหาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน พร้อมเยี่ยมชมมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ โดยมี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ
โดย พล.อ. ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมจุดคัดกรอง ช่องทางด่านเข้าออกระหว่างประเทศ ทั้งนี้ผู้เดินทางทุกคนจะถูกคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย และตรวจสุขภาพตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด หากพบผู้เดินทางที่ไม่ผ่านการคัดกรอง คือมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการตามนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) จะถูกสอบสวนโรคที่ห้องแยกกัก และรายงานข้อมูลไปที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี กรมควบคุมโรค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อทำการส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามระบบ
และผู้เดินทางที่ผ่านการคัดกรองอุณหภูมิและเอกสารทางราชการแล้วจะต้องลงทะเบียนเช็กอิน รับสัมภาระที่ทำลายเชื้อแล้ว และขึ้นรถขนส่งไปยังสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (State Quarantine) หรือสถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine) จนครบ 14 วัน โดยจะมีการตรวจหาเชื้อผู้เข้าพักทุกคนระหว่างอยู่ในสถานที่กักตัวอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อยืนยันให้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อเพื่อความปลอดภัย
ทางด้านอนุทินกล่าวว่ารัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จังหวัดระยอง มีภารกิจคัดกรองคนไทยที่เดินทางกลับประเทศก่อนเข้าสู่สถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด โดยศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อม ทั้งมาตรการควบคุมป้องกันบุคลากรและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และการท่าอากาศยาน ที่ผ่านมาได้คัดกรองผู้เดินทางและลูกเรือ เช่น คนไทยกลับบ้านที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน, กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยน (AFS) ชาวไทยจากสหรัฐอเมริกา และกลุ่มทหารจากประเทศอียิปต์
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลผู้เดินทางและได้รับการคัดกรองในระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 19 สิงหาคม 2563 มีจำนวน 665 เที่ยวบิน รวม 120,329 ราย ส่งตรวจหาเชื้อทั้งหมด 580 ราย พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จำนวน 269 ราย ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 ราย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นในจังหวัดระยอง และยังคงมาตรการเข้มข้น โดยตรวจคัดกรองผู้เดินทางทุกคน เมื่อพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคจะนำส่งเข้าสู่ระบบต่อไป
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมเสนอโครงการยกระดับระบบบริการสุขภาพรองรับโรคอุบัติใหม่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออก 1 และพื้นที่ใกล้เคียงแก่คณะรัฐมนตรี เพื่อรองรับและเพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาโรคอุบัติใหม่และโรคที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีการขยายตัวรวดเร็วจากการเติบโตของภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทำให้มีประชาชนโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อประกอบอาชีพ ส่งผลให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีศักยภาพ คุณภาพดียิ่งขึ้น ลดความแออัดในการเข้ารับบริการ และเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์