วันนี้ (8 ส.ค.) เวลา 08.50 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เดินทางถึงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเพชรบุรี โดยทันทีที่ลงจากรถ นายกฯ ได้กล่าวทักทายข้าราชการที่มารอต้อนรับพร้อมรอยยิ้มว่า
“ยังมีรอยยิ้มอยู่ก็โอเคนะ วันนี้มาให้กำลังใจ”
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ยังคงมีปริมาณน้ำหลากไหลลงเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลล้นทางระบายน้ำสูง 33 เซนติเมตรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจานจะมีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์สูงสุดในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ โดยมีความสูงเหนือสปิลเวย์ประมาณ 0.65 เมตร มีอัตราการไหล 106 ลบ.ม. ต่อวินาที มีปริมาณน้ำไหลผ่าน River Outlet + เครื่องสูบน้ำ + กาลักน้ำ รวม 110 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณน้ำไหลล้นข้ามสปิลเวย์ จะทำให้มีปริมาณน้ำผ่านท้ายเขื่อนแก่งกระจานสูงสุด 224 ลบ.ม. ต่อวินาที
ในส่วนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเพชร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลรวมหน้าเขื่อนเพชรสูงสุดปริมาณ 230-250 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยจะทำการหน่วงน้ำหน้าเขื่อนและตัดระบบชลประทานฝั่งซ้าย-ฝั่งขวา รวม 55 ลบ.ม. ต่อวินาที และผันน้ำเข้าคลองระบายน้ำ D9 อัตรา 35 ลบ.ม. ต่อวินาที รวม 90 ลบ.ม. ต่อวินาที พร้อมทั้งระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพชรในอัตรา 140-160 ลบ.ม. ต่อวินาที จะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด โดยไม่มีผลกระทบ และเมื่อไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี จะทำให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชน สูงเฉลี่ยประมาณ 30-50 เซนติเมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน หากไม่มีปัจจัยอื่นๆ มาเสริม
ส่วนการเตรียมการช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำในพื้นที่ จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง พร้อมกับติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง และเตรียมพร้อมยานพาหนะและเครื่องจักรกล เช่น รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำ ทั้งนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและคลื่นลมแรง พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่พื้นที่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงเขื่อนเพชรแล้ว
จากนั้น พล.อ. ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำคลอง D9 ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง เพื่อตรวจเยี่ยมการขยายคลองชลประทาน
โดย พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับว่า โครงการประตูระบายน้ำคลอง D9 รัฐบาลนี้เป็นผู้อนุมัติ เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้ โดยโครงการนี้จะเป็นการแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว ทั้งช่วยป้องกันน้ำท่วมและใช้เพื่อการเกษตร
อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการประตูระบายน้ำ D1 และ D12 โดยโครงการประตูระบายน้ำ D1 ยังดำเนินการไม่ได้เพราะต้องรอใช้งบประมาณปี 2562
นอกจากนี้ นายกฯ ยังฝากผู้นำชุมชนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะการขุดคลองระบายน้ำต้องใช้พื้นที่ของชาวบ้าน ขณะที่โครงการประตูระบายน้ำ D1 ยังติดปัญหาการเวนคืนที่ดินจากประชาชน
ช่วงท้าย นายกฯ ยังฝากให้ทุกคนอย่าลืมไปเลือกตั้ง และขอให้ไปเลือกตั้งให้ดี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า