เช้าวันนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเยือน ราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลกัมพูชา ตามคำเชิญของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน และจะเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3
สำหรับการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ เป็นการเยือนครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่การเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อเดินทางถึงตามกำหนด นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศมีกำหนดหารือทวิภาคี และเป็นประธานร่วมในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3
โดยการหารือจะครอบคลุมประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยนายกรัฐมนตรีจะย้ำความร่วมมือในการสานต่อการพัฒนาเครือข่ายความเชื่อมโยงทางบกและทางน้ำ การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร และความร่วมมือด้านวิชาการ
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร 2 ฉบับ ได้แก่
(1) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์จะขยายความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
(2) ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันต่อไป
ภายหลังการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ยังพอใจความร่วมมือที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้านความมั่นคง มีการประสานงานใกล้ชิดทุกระดับ ทั้งการปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามการค้ามนุษย์ และเรื่องการแก้ไขการลักลอบตัดไม้พะยูง ซึ่งหน่วยงานทั้งสองฝ่ายต้องจัดการประชุมเพื่อวางขั้นตอนและแนวทางที่จะเพิ่มพูนการสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้นี้
ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการเชื่อมต่อระบบรางรถไฟจากอรัญประเทศ ปอยเปต ศรีโสภณ ไปถึงกรุงพนมเปญให้แล้วเสร็จในปี 2562 ฝ่ายไทยได้สร้างส่วนเชื่อมต่อถึงอรัญประเทศไว้แล้ว เมื่อสร้างเสร็จจะสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางรถไฟเชื่อมสองประเทศและรองรับการท่องเที่ยวทางรถไฟในอนุภูมิภาคได้ และจะเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมไทยกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเส้นแรก
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยจะดูแลแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้ดีที่สุดตามหลักกฎหมายไทย ให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายไทย และย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมายแบบรัฐต่อรัฐ
ไทยจะสนับสนุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกัมพูชา ทั้งความร่วมมือทางวิชาการด้านการเกษตร สาธารณสุข และการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ ทั้งการพัฒนาชุมชนตัวอย่างโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ภายใต้ Think SDG, Act SEP เผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งยินดีที่ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างกันนี้เป็นส่วนต่อยอดให้กัมพูชาบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติด้วย
พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้ชื่นชมความสำเร็จในการลงนามความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการลงทุนจากไทยไหลมาสู่กัมพูชามากขึ้น ซึ่งเน้นย้ำให้ภาคเอกชนไทยทำกิจกรรมที่คืนความสุขแก่สังคมอย่างสม่ำเสมอ โดยการลงทุนของไทยในต่างประเทศต้องควบคู่ไปกับกิจกรรมเหล่านี้
Photo: www.thaigov.go.th