วันนี้ (18 สิงหาคม) ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เยี่ยมชมกิจการและรับฟังรายงานความคืบหน้าเรื่องการฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ พร้อมด้วย ชาญศิลป์ ตรีนุชกร, พรชัย ฐีระเวช ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ และ ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และฝ่ายบริหาร ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ภายหลังการเยี่ยมชมกิจการ ทดลองขับเครื่องบินจำลอง และรับฟังการบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ฝ่ายบริหาร และพนักงานปัจจุบัน ที่ได้ร่วมกันเสียสละเข้าโครงการร่วมใจจากองค์กรที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูกิจการให้มีความรุดหน้าและรวดเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งผู้โดยสารที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการของการบินไทย
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์โดยระบุว่า ต้องขอชื่นชมทุกท่าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง รวมถึงการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และทุกคนทราบดีว่าแนวโน้มดีขึ้นมาก มีเงินสำรอง 50,000 กว่าล้านแล้ว ซึ่งต้องมองว่าตรงนี้จะเอาไปทำอะไรอีก จะผลีผลามใช้หมดทีเดียวไม่ได้ เป็นเงินสะสมที่ต้องดูแลบริหารหนี้สินต่างๆ อีกหลายอย่าง พัฒนาปรับปรุงในหลายมิติ
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อขอบคุณคณะผู้บริหารแผนทั้งหมด ที่สามารถบริหารตามแผนทั้งหมดได้ และคาดว่าจะกลับเข้าสู่สายการบินแห่งชาติเร็วขึ้นกว่าเดิม และอยากให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจกับการบินไทยของเราที่ยังคงเป็นสายการบินที่ได้รับความนิยมเชื่อถือในระยะต่อไปให้มากยิ่งขึ้น
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า “การเมืองไม่ต้องถาม อย่าถามเลย ไปไหนก็การเมืองๆ มันทำให้สมองทำงานอื่นไม่ค่อยได้ เขาพูดกันไปกันมาก็ต้องปล่อยเขา กลไกมันมีอยู่แล้ว กฎหมายก็มีอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญว่าอย่างไรก็ตามนั้น ตนไปพูดอย่างอื่นไม่ได้อยู่แล้ว และวันนี้อยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปให้ได้และได้รัฐบาลที่เข้มแข็ง และเป็นอย่างที่ทุกคนต้องการ ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกคนต้องทำต่อกันหมด ทิ้งใครไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรามองเป็นศัตรูกันไปตลอดมันก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ขอบคุณนะจ๊ะ ไปใช้บริการการบินไทยให้มากขึ้นนะ” จังหวะนี้ทำให้เจ้าหน้าที่การบินไทยปรบมือและส่งเสียงแสดงความดีใจ
เมื่อถามว่านายกฯ เปรียบเป็นกัปตันตู่ที่พาการบินไทยรอดได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ เราต้องเป็นการท่าฯ ดีกว่า เพราะเครื่องบินมีหลายลำ หลายพวก ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่เป็นรัฐบาล ที่ดูแลรองรับอย่างไรในทุกปัญหา เครื่องบินจะลงจะขึ้น จะลงดีหรือไม่ดี ตนมีหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมทุกอัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เราคงไม่ใช่ไปเก่งกาจสามารถ เมื่อครู่ไปลองบินแล้วพอใช้ได้ ลองบินขึ้นบินลง มีระบบออโตเมติกและแมนวลเรียบร้อย
เมื่อถามว่าลองแลนดิ้งแล้วใช่ไหม นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน ไม่งั้นตกไปแล้วไม่ได้มาตรงนี้หรอก ปัดโธ่ก็ถามไปเรื่อย ต้องขอบคุณ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และอีกหลายหน่วยงาน เพราะตนไม่ได้ทำงานคนเดียว ต้องให้เครดิตทุกคนที่ทำงานร่วมกันมาหลายปี หลายกิจกรรม และดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราร่วมมือกัน
“การบินไทยก็แก้ปัญหาภายในของเขาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือของบุคลากร ยอมลดเงินเดือนและอะไรต่างๆ ทั้งหมดเพื่อเซฟค่าใช้จ่าย ทำได้เขาทำได้ และลดคนลงมาจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นไปตามความสมัครใจ ซึ่งก็เห็นใจ ก็ทำกันมานานหลายปี แต่ก็ยอมรับกันได้ นั่นแหละคือสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะการบินไทย ถ้าแก้กันแบบนี้จะไปได้หมดทุกเรื่อง จำไว้แล้วกัน แตกแยกกันไม่ได้อยู่แล้วนะจ๊ะ ขอร้องและขอบคุณสื่อทุกคนด้วย สวัสดีจ้ะ”
ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวก่อนขึ้นรถด้วยว่า การบินไทยเขาเรียกว่ารักคุณเท่าฟ้าใช่ไหม แต่วันนี้นายกฯ รักพวกเธอเท่าฟ้าด้วย พร้อมนำมือมาแตะที่อก ก่อนกล่าวว่า ช่วยกันนะ ช่วยกันทำให้สำเร็จ ขอบคุณทุกๆ อย่าง พร้อมส่งมือไอเลิฟยู