วันนี้ (27 มิถุนายน) เพจเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความยกตัวอย่างผลงานต่างๆ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวเริ่มต้นถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ผลจากการทำงานอย่างหนักของทุกภาคส่วนของประเทศและความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติ ทำให้ในวันนี้มีผลการดำเนินการในทุกมิติเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า การเดินทางของประเทศไทยในวันนี้เราได้ฟื้นตัวจากมหาวิกฤตซ้อนวิกฤตได้อย่างยั่งยืนแล้ว ในอนาคตอันใกล้เราจะสามารถพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่ประเทศแนวหน้าของโลก
สำหรับในยุคลูกหลานของเราก็จะก้าวไปสู่ประเทศผู้ส่งออกนวัตกรรม เป็นประเทศผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ สู่สายตาชาวโลก ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากการปูพื้นฐานและความพยายามของคนรุ่นเราในทุกวันนี้ จึงขอหยิบยกรายงาน สถิติ และผลการประเมินต่างๆ มานำเสนอ ดังนี้
- รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี 2566 ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ประเมินผลการพัฒนาของไทย ดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 43 จากการประเมินทั้งหมด 166 ประเทศ ถือเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เป็นผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาประเทศทุกระดับ
- สถิติการลงทุนประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในประเทศไทยช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุนรวม 274 ราย สร้างมูลค่า 45,392 ล้านบาท สร้างการจ้างงาน 2,999 คน โดยเป็นการลงทุนใน EEC ที่เป็นแหล่งบ่มเพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศจำนวน 48 ราย มีมูลค่า 9,442 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของเงินลงทุนทั้งหมด สะท้อนความเชื่อมั่นและศักยภาพความพร้อมของไทย รองรับการลงทุนระยะยาวจากทั่วโลก
- การจัดอันดับดัชนีระบบนิเวศทางสตาร์ทอัพโลกประจำปี 2566 โดยเว็บไซต์ StartupBlink ที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านระบบนิเวศสตาร์ทอัพทั่วโลก ได้จัดอันดับ 100 ประเทศ และ 1,000 เมือง โดยให้ไทยอยู่ในอันดับ 52 ของโลก ดีขึ้น 1 อันดับจากปีที่แล้ว และถือเป็นอันดับที่ 4 ของอาเซียน
- การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ประจำปี 2566 อยู่อันดับที่ 30 ซึ่งดีขึ้น 3 อันดับจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ดีขึ้น 18 อันดับ
นอกจากนี้ผมยังได้ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานสำคัญๆ อีกหลายเรื่องให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนคนไทยในเร็ววัน ได้แก่
- การขยายผลจากความสำเร็จหลังฟื้นความสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุ’ ภาพรวมมูลค่าด้านการลงทุนระหว่างกันอยู่ที่ 3.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.64% ด้านการท่องเที่ยวในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าไทย 96,389 คน สร้างรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และคาดว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 150,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 12,000 ล้านบาท โดยมีการเพิ่มเที่ยวบินจาก 9 เที่ยวต่อสัปดาห์ เป็น 42 เที่ยวต่อสัปดาห์
- ผลจากมาตรการส่งเสริม 5F Soft Power ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ไทยได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ บนหลายแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว ทั้ง Agoda และ Klook มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติจองกิจกรรมในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 1,200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 5 เดือนกว่า 10.6 ล้านคน สะท้อนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไทยและการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
- ความคืบหน้าในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น
-
- โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร มีความคืบหน้าตามแผน ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569 และจะเปิดให้บริการในปี 2570 ช่วยให้การเดินทางได้รวดเร็วขึ้นโดยเหลือเพียง 90 นาที
-
- โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนานไปกับทางเดิม สายใต้: ช่วงนครปฐม-ชุมพรภาพรวมคืบหน้ามากกว่า 90% เมื่อเสร็จแล้วจะช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้ 25-30 %
“สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นมากกว่าความภาคภูมิใจของคนไทย แต่เป็นทั้งโอกาสและอนาคตที่สดใส คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าด้วยศักยภาพของคนไทย ภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสงบของบ้านเมือง ความสามัคคีของคนในชาติ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าในอดีต และมีความต่อเนื่องครับ” ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุ