วันนี้ (11 ธันวาคม) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข
ระหว่างชมนิทรรศการ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมานอนไปแค่ 3 ชั่วโมง เพราะนอนไม่หลับ เครียดหลายเรื่อง ขณะนี้มีปัญหามากพอสมควร โดยเฉพาะในการใช้จ่ายงบประมาณ ทุกโครงการดีหมด แต่อยู่ที่วิธีการว่าจะทำอย่างไรให้การใช้จ่ายงบประมาณนั้นพอเพียง คุ้มค่า และต้องเรียงลำดับความสำคัญและความจำเป็น
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่าวันนี้อย่าลืมว่างบประมาณเรายังมีปัญหา คือยังไม่ผ่านการพิจารณากรรมาธิการ ถ้าไม่ผ่านก็จะยิ่งช้า อะไรก็ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเป็นเงินงบประมาณปี 2563
ปัญหาสำคัญคือมีโครงการที่อยากได้เยอะแยะไปหมด แต่ในเรื่องงบประมาณในมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีระบุไว้ว่ากรณีที่เป็นงบรายจ่ายข้ามปี การขอเบิกเงินจากคลังตามงบรายจ่ายข้ามปีนั้นให้กระทำได้เฉพาะในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบรายจ่าย เว้นแต่เป็นงบรายจ่ายข้ามปีที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนส้ินกำหนดเวลา และได้มีการกันเงินไว้ตามระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลังให้ขยายขอเบิกเงินจากคลังได้ไม่เกิน 3 เดือนปฏิทิน
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าตอนนี้เงินเหลือน้อยแล้ว เพราะเราใช้งบปี 2563 ไปพลางก่อนแล้ว และได้จำนวนหนึ่งเท่านั้นเอง งบส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็ดูแลประชาชน ดูแลเกษตร แต่บางส่วนต้องใช้ในงบการลงทุนด้วย ถ้าเราใช้ตรงนี้ไปมากๆ ภาระเรื่องงบรายจ่ายประจำก็มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องให้อยู่แล้ว แต่ต้องทยอย
ส่วนเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้องทยอย เพราะเป็นมติของ 3 ฝ่าย ก็ให้เท่านี้ไปก่อน ส่วนนโยบายหาเสียงก็อีกเรื่อง ค่อยๆ เดินหน้าไป การขึ้นค่าแรง หากเราไปทดสอบฝีมือแรงงานจะมีใบรับรอง เวลาไปสมัครงานที่อื่นที่ใช้วิชาชีพ ราคาค่าแรงก็จะสูงขึ้น 400-500-600 บาทก็มี แม้กระทั่งปูกระเบื้องก็มีค่าแรงหลายระดับ สูงถึง 1,000 บาทก็มี อยู่ที่ฝีมือด้วย ซึ่งทุกคนต้องพัฒนาไปสู่ตรงนี้ ไม่อย่างนั้นวันหน้าถ้าเราขึ้นมากไป โรงงานขนาดเล็กจะแย่ เพราะมีแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ถ้าขึ้นค่าแรงหมด คนที่จ่ายคือโรงงาน แล้วโรงงานต้องไปขึ้นราคาสินค้า ก็เดือดร้อนกลับมาอีกรอบ ขอให้คิดแบบนี้ และรัฐบาลก็คิดแบบนี้ ก็จะทำให้แฮปปี้ทุกคน หากจ่ายๆ ไปแล้วทุกอย่างพังก็กลับมาที่รัฐบาล ซึ่งนโยบายดีอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำให้ แต่ทุกคนต้องปรับไปด้วย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่านอกจากเครียดเรื่องงบแล้ว เครียดเรื่องปรับ ครม. ที่มีข่าวออกมาด้วยหรือไม่
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่ากุข่าวขึ้นมาเองหรือเปล่า อย่ากุข่าว เพราะไม่ได้พูดอะไร
เมื่อถามว่าแสดงว่ามีคนปล่อยข่าวหรือไม่
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่าสื่อนั่นแหละปล่อย ตนจำได้ ตนไม่เคยพูด แล้วใครพูด แสดงว่ามีคนพูดแล้วสื่อไปขยายต่อ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์