วันนี้ (19 ตุลาคม) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะ ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
โดยจุดแรกคือศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า จังหวัดนครราชสีมา แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอำเภอปักธงชัย ซึ่ง วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ยังคงมี 9 อำเภอที่ยังได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอปากช่อง, โชคชัย, สูงเนิน, เนินสูง, เมือง, พิมาย, ขามทะเลสอ, เสิงสาง และปักธงชัย ซึ่งจังหวัดได้ร่วมกับองค์กรส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน สมาคม มูลนิธิ ได้ให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนได้ติดตามรายงานทุกวัน และทราบดีว่าทุกคนทำงานอย่างหนัก จึงตั้งใจมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้งมหาดไทย กรมชลประทาน คมนาคม และหน่วยงาน ทราบว่าจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมและคลี่คลายแล้วเหลือเพียง 11 จังหวัดจาก 28 จังหวัด สาเหตุมาจากอิทธิพลพายุดีเปรสชัน รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบภัย ขณะเดียวกันก็ต้องเดินหน้าตามภาระหน้าที่หลายอย่าง ทั้งการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย การควบคุมการสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่รอบประเทศ รวมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นด้วยมาตรการผ่อนปรนต่างๆ
สำหรับสถานการณ์ในกรุงเทพฯ นั้น ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวัง อย่าให้เหตุการณ์บานปลาย รัฐบาลไม่มุ่งหวังใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น และดำเนินการทุกอย่างตามมาตรฐานสากล ขอเพียงให้ทุกคนช่วยกันรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งดูแลประชาชนให้ทั่วถึง ก็จะทำให้ไทยผ่านพ้นไปด้วยดี
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการถอดบทเรียนการทำงานว่า แม้วันนี้อ่างเก็บน้ำจะมีน้ำมากขึ้น แต่จำเป็นต้องมีการพร่องน้ำในบางแหล่งเก็บน้ำที่มีปริมาณมากเกินความจุ ซึ่งการระบายน้ำ การพร่องน้ำจะต้องไม่กระทบต่อพี่น้องประชาชนหรือสถานที่สำคัญ เช่น ชุมชน หมู่บ้าน โรงพยาบาล พร้อมเสนอแนะให้พื้นที่จัดหาทุ่งรับน้ำ เช่นเดียวกับที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือ อยุธยาโมเดล ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยและรับสั่งว่า เราบังคับธรรมชาติไม่ได้ แต่ต้องอยู่กับน้ำให้ได้ ทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม รัฐบาลจึงมีนโยบายสร้างแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็กกระจายไปยังพื้นที่ที่เหมาะสมเช่นเดียวกับเบ้าขนมครก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
รวมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสำรวจเส้นทางระบายน้ำ ดูแลการจราจรไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรของประชาชน การแจกจ่ายเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับประชาชน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์เพื่อการสื่อสารให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ได้ เช่น เครือข่ายวิทยุ นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ในการเตรียมความพร้อมรองรับภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งความปลอดภัยจากน้ำ จากไฟ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ช่วยเหลือประชนและฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคได้ทันที
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยากใช้โอกาสนี้สร้างการรับรู้แก่ประชาชนว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำงานตามที่วางยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟ ขณะนี้ไทยอยู่ในระดับประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ผ่านมาไม่มีอะไรเสียหาย และมั่นใจว่าไทยจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 น้ำท่วม วิกฤตเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้สามารถแก้ไขผ่านกลไกรัฐสภา พร้อมย้ำในช่วงท้ายว่าไม่เคยทำอะไรเพื่อตนเอง ฝากให้ทุกคนช่วยกันคิด ร่วมกันเดินหน้าบ้านเมือง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางต่อไปที่เทศบาลนครเมืองเมืองปัก เพื่อมอบอาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นให้แก่ประชาชน พร้อมทักทายให้กำลังใจประชาชนก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังเสร็จภารกิจ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์