พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำในเขต กทม. ว่า จะมีการติดตั้งสถานีสูบน้ำชั่วคราว และวางแผนระบายน้ำในพื้นที่เสี่ยง 14 จุด และพื้นที่เฝ้าระวัง 56 จุด เพิ่มความถี่ในการจัดเก็บขยะและสิ่งปฏิกูลในแหล่งน้ำ รวมทั้งบูรณาการระหว่างหน่วยงาน เพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณพื้นที่รอยต่อของ กทม. ให้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาหรือทะเลโดยตรง และจัดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าประจำสถานีสูบน้ำสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาทันทีหากระบบขัดข้อง
นอกจากนี้ กรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรมเจ้าท่า ได้เสนอแผนงานแก้ไข และปรับปรุงระบบระบายน้ำ ที่สามารถทำได้ทันที ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน รวม 32 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ กทม. และรอยต่อ และขุดลอกแม่น้ำท่าจีนตอนบนที่ จ.สุพรรณบุรี ส่วน กทม. จะต้องเร่งสำรวจ และจัดทำบัญชีสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมแผนปรับปรุงให้แล้วเสร็จในปีนี้
นายกรัฐมนตรียังรับทราบด้วยว่า กทม. ได้ปรับปรุงคลองลาดพร้าว ซึ่งเป็น 1 ในคลองสายหลัก 9 แห่งแล้วเสร็จ ก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำแล้วเสร็จ 4 แห่ง จากแผน 9 แห่ง ทำแก้มลิงแล้วเสร็จ 31 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มอีก 7 แห่ง และภายในเดือน ก.ค. นี้ จะขุดลอกคูคลอง 80 สาย ความยาว 118 กม. ขณะที่กรมทางหลวงได้ขยายท่อ ดันท่อลอดถนน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำริม ถ.วิภาวดีรังสิตทั้ง 2 ฝั่ง และเตรียมโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนถนนสาย 304 (แจ้งวัฒนะ) ภายในปีนี้ด้วย
“นายกฯ กำชับให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการตามแผนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะต้องทำงานหนักขึ้นในช่วงที่จะมีฝนตกหนัก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์