พรรคเพื่อไทยแถลงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งพูดคุยในหลายประเด็น ทั้งการติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลต่อการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรและสถานการณ์ภัยแล้ง รวมถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การถวายสัตย์ปฏิญาณที่ขัดรัฐธรรมนูญของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าภาคการเกษตร SMEs ประสบปัญหาวิกฤตอย่างหนัก หรือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือประชาชนไม่เกินเดือนสิงหาคม และเห็นว่าการชดเชย เช่น นาข้าวประมาณ 1,100 บาทต่อไร่ไม่เพียงพอ ซึ่งจะต้องพิจารณาตามข้อเสนอที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอแนะไปก่อนหน้านี้ และหากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้จะพิจารณาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยกังวลเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรี เพราะจะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญที่ตนเองได้ร่างขึ้นมาอย่างชัดเจน
และเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ ได้กระทำการที่ขัดรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้ง เพียงแต่ก่อนหน้านี้มีมาตรา 44 เข้ามาจัดการ ดังนั้นเมื่อปัจจุบันไม่มีมาตรา 44 แล้ว ขอให้นายกรัฐมนตรีออกมารับผิดชอบทั้งการถวายสัตย์ปฏิญาณและการแถลงนโยบาย
ส่วนกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณ อยากให้ใช้เวทีสภาในการหาทางออกร่วมกัน เรื่องของการถวายสัตย์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จะไม่มีรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีคนใดที่ปฏิบัติเหนือรัฐธรรมนูญได้
ซึ่งการทำงานของรัฐบาลเป็นที่กังขา เสี่ยงต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะการออกมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด กลัดกระดุมเม็ดแรกผิดถือว่าผิด จะต้องมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อเดินหน้าตามกฎหมาย ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาด้วยตนเองมาเกือบเดือนแล้ว ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญ
พร้อมยืนยันว่าไม่มีจุดประสงค์ที่จะสร้างความยากลำบากให้กับรัฐบาล ดังนั้นจะต้องไม่เสียเวลา แต่ต้องหาทางแก้ไข และเมื่อนายกรัฐมนตรีไม่ยอมแก้ไขด้วยตนเอง ปล่อยให้สิ่งที่ผิดนั้นผิดต่อไป จึงจะขอใช้เวทีสภาตามมาตรา 152 เปิดอภิปรายทั่วไปกับรัฐบาลเพื่อปรึกษาหารือ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประชาชนเกิดผลสัมฤทธิ์
ดังนั้นอะไรที่ผิดต้องทำให้ถูกก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน ซึ่งถือเป็นการหาทางออกร่วมกัน การรับผิดอย่างเดียวไม่ช่วยทำให้ถูกกฎหมาย แต่นายกรัฐมนตรีจะต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้นำเสนอพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 โดยจะดำเนินการยื่นญัตติให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่ โภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน การปฏิรูปการเมืองที่เป็นข้ออ้างการรัฐประหารก็ไม่มีผลเป็นรูปธรรม ดังนั้นจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา
โดยจะให้ประชาชนเลือกผู้แทนขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ สาระสำคัญคือให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เลือกคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อเป็นคณะทำงานในการร่างรัฐธรรมนูญ
ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาความไม่ปรองดอง ความแตกแยกจะหายไป พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไปดูว่าจะร่วมรณรงค์อย่างไร และจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของประเทศ
หากทุกภาคส่วนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาของประเทศรวมถึงฝ่ายรัฐบาล อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญและความแตกแยกจะผ่านพ้นไปได้ จึงฝากไปยังสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้บ้านเมืองมีกติกาที่ทุกคนร่วมกันพิจารณา
ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นรูปแบบและหลักการของรัฐธรรมนูญที่สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ถูกต้อง ผู้ที่ทำไม่ถูกต้องจะต้องไปแก้ไขเพื่อทำให้ถูกต้อง ให้การบริหารราชการแผ่นดินเดินหน้าไปได้ เชื่อว่าในสัปดาห์นี้จะมีการตั้งกระทู้ถามอีกครั้ง และเพื่อให้เกิดความชัดเจน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ขอให้นายกรัฐมนตรีมาตอบคำถามว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และพรรคฝ่ายค้านจะปรึกษาหารือเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว โดยอาศัยกลไกตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์