หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการระงับการเผยแพร่ผลโพลของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักใครทั้งสิ้น และไม่บังอาจที่จะไปสั่งใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการจัดทำโพลที่ลาออกไป หรืออธิการบดีของนิด้าก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น และเคยบอกอยู่แล้วว่าไม่เคยสั่งอะไรกับใคร ไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือการจัดทำโพล
“ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าช่องทางที่จะรับฟังความคิดเห็นได้มีหลายช่องทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของศูนย์ดำรงธรรม หรือวันนี้ก็กำลังทำในเรื่องของ Big Data ออกมาในการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อให้ถึงประชาชนโดยตรง และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้ทำคือการรับฟังความคิดเห็นประชาชนจากคำถาม 4 บวก 6 คำถามของผม
“ซึ่งวันนี้ก็มีความเห็นเข้ามา 1.4 ล้านกว่าคนแล้ว เดือนนี้ก็ประมาณ 4 หมื่นกว่าคน ซึ่งเป็นข้อที่น่าสังเกตว่าคนที่แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นระดับประถมศึกษา ซึ่งอยู่ในภาคการเกษตร เป็นประชากรชายและหญิงจำนวนเท่าๆ กัน ผลบางอย่างที่เชียร์รัฐบาล ผมไม่อยากพูด ส่วนคำแนะนำก็มีจำนวนมาก หลายคำถามก็มีคำตอบ และขยายความคิดเห็นว่ารัฐบาลควรจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ และที่ผมเห็นเน้นมากที่สุดคือเรื่องการปฏิรูปประเทศของคนทั้ง 1.4 ล้านคน อยากให้ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ควบคู่ไปกับการปฏิรูปประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลต่อไป” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของโพล ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศคงไม่ใช่ เพราะแต่ละครั้งมีคนมาตอบคำถามประมาณ 1,000 กว่าคนจากหลายอาชีพ และในเรื่องของคำถาม บางครั้งก็มีการนำเอาคำถามเดิมไปถามกับคนไม่ตรงกลุ่ม เช่น ถามในเรื่องทางเศรษฐกิจ แต่เอาไปถามคนอีกระดับหนึ่งที่เป็นคนละอาชีพ ซึ่งด้วยหลักการจะขัดแย้งหรือไม่ ตนไม่ขอตอบในเรื่องทางวิชาการ เพราะตนไม่ใช่นักวิชาการ
แต่ที่ตนฟังคือประชาชน 1.4 ล้านคนที่ตอบคำถามเข้ามา ซึ่งมีเหตุและผลในการตอบ และถือเป็นคำถามของตน เป็นคำถามปลายเปิด แต่ถ้าเป็นคำถามที่ถามว่าใช่หรือไม่ใช่ก็มีแค่บวกหรือลบ ก็ต้องไปดูด้วย และเชื่อว่าทุกคนมีเจตนาดี ไม่ว่ากัน เพียงแต่ขอร้องว่าอย่ามาโยนว่ารัฐบาลไปบังคับใครคนใดคนหนึ่ง ตนไปบังคับใครไม่ได้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า
การเผยแพร่ผลโพลในฐานะ ผอ.นิด้าโพล ถือว่าเป็นการเผยแพร่ในนามสถาบัน ดังนั้นควรต้องหารือกันก่อน การใช้คำว่าเซนเซอร์ถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องใช้คำว่าหารือ
ประดิษฐ์กล่าวด้วยว่าถ้าเป็นโพลทั่วไปก็สามารถดำเนินการได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นโพลที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ตนขอให้รองผู้อำนวยการนิด้าโพลส่งหัวข้อให้ตนดูก่อนเพื่อช่วยปรับเรื่องคำถาม ซึ่งถ้าเป็นภาพรวมนโยบายสามารถทำโพลได้ แต่ถ้าเป็นโพลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะจะกลายเป็นประเด็นชี้นำสังคมได้
ส่วนกรณีแหวนเพชรและนาฬิกาของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ถ้ามีการตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้ว หากยังอยู่ในความสนใจของประชาชนก็ยินดีจะเผยแพร่