วันนี้ (2 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมี ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
โดย อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้สนับสนุนวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมิตรแท้และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนานกว่า 188 ปี รวมถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย-สหรัฐฯ ที่ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิดร่วมกัน ซึ่งการฉีดวัคซีนถือเป็นประโยชน์สำหรับไทยที่มีความต้องการใช้วัคซีนเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในปัจจุบัน พร้อมขอขอบคุณ แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้ผลักดันและสนับสนุนให้ไทยได้รับวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 ล้านโดส โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ดูแลคนไทยและผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ เป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะนำวัคซีนทั้งหมดไปบริหารจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทยต่อไป
ไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า ทางสหรัฐฯ มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในพิธีส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ในวันนี้ และภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับไทยในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด อุปทูตสหรัฐฯ ยังยินดีที่ไทยและสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ที่ยาวนาน และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความมั่นคง สาธารณสุข และเศรษฐกิจ นอกจากนี้เป็นระยะเวลาอันยาวนานที่ไทยและสหรัฐฯ มีความร่วมมือทางด้านสาธารณสุข และการพัฒนาวัคซีนร่วมกันเพื่อป้องกันโรคระบาด การส่งมอบวัคซีนวันนี้นับเป็นการยกระดับความร่วมมือดังกล่าวให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ อุปทูตสหรัฐฯ ยังกล่าวขอบคุณรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ดูแลประชาชนชาวสหรัฐฯ ในไทยเป็นอย่างดีในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด พร้อมหวังว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดของไทยจะคลี่คลาย
ทั้งนี้วัคซีนดังกล่าวของบริษัท Pfizer-BioNTech จำนวน 1,503,450 โดส ได้จัดส่งถึงไทยแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564