#prayforSala ‘ซาลา’ นักฟุตบอลที่คนทั้งโลกตามหา และข้อความสุดท้ายจากฟากฟ้า

ตามกำหนดการ เขาควรจะเดินทางถึงคาร์ดิฟฟ์แล้ว หลังเสร็จภารกิจในการกลับไปบอกรักและบอกลาเพื่อนร่วมทีมเก่าที่สโมสรน็องต์เป็นครั้งสุดท้าย

และนั่นก็เป็นข้อความสุดท้ายที่เราได้จาก เอมิเลียโน ซาลา ที่เขียนบรรยายถึงภาพที่เขาถ่ายร่วมกับเพื่อนที่น็องต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า ‘La ultima ciao’ หรือ ‘การบอกลาครั้งสุดท้าย’ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา

เครื่องบินโดยสารเดินทางจากน็องต์ เพื่อมาส่งนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในฤดูกาลนี้ เป็นปีที่เขากำลังอยู่ในฟอร์มของชีวิต และทำให้เขาได้รับโอกาสครั้งใหญ่ที่อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายในการได้ย้ายมาเล่นในลีกอันดับหนึ่งของโลกอย่างพรีเมียร์ลีก

‘เดอะ บลูเบิร์ด’ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สโมสรใหม่ของเขา ก็คาดหวังในตัวของเขาสูงมากเช่นกัน เพราะสถานการณ์ในเวลานี้ ทีมตกที่นั่งลำบาก อยู่ในโซนตกชั้น และกองหน้าอย่างซาลาคือคนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมให้รอดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตได้

แต่เขายังมาไม่ถึงที่เมืองทางตอนใต้ของเวลส์

19.15 น. ของค่ำวันจันทร์ เครื่องบินเล็ก The Piper Malibu รหัส PA 46 Malibu ซึ่งมีผู้โดยสารเพียง 2 คน และหนึ่งในนั้นคือ ซาลา เดินทางออกจากน็องต์ โดยคาดว่า จะถึงคาร์ดิฟฟ์ในเวลา 20.45 น.

แต่เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำการชายฝั่งแจ้งว่า มีเครื่องบินเล็กลำหนึ่งหายไปจากจอเรดาร์ ในพื้นที่บริเวณหอประภาคารแคสเกตต์ ในเขตอัลเดอร์นี หมู่เกาะแชนแนล ซึ่งเป็นหมู่เกาะบริติชในช่องแคบอังกฤษ โดยตำแหน่งที่หายไปนั้นห่างจากทางตอนเหนือของเกาะอัลเดอร์นีราว 15 กิโลเมตร

ไม่มีคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม ไม่มีเสียงหรือสัญญาณใด ไม่มีการบอกหรือกล่าวอะไร

ซาลาหายไปเงียบๆ พร้อมกับเครื่องบินลำนี้ และทำให้ไม่เพียงแค่คนที่สโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ หรือน็องต์ ที่กระวนกระวายใจ หากแต่คนทั้งโลกก็พากันกระวนกระวายใจไปด้วย

ด้วยความเป็นห่วง และลึกๆ แล้ว ด้วยความกลัวว่ามันอาจจะเป็นข่าวร้าย

ปฏิบัติการค้นหาบนความหวังที่เลือนราง

ภายหลังจากทราบว่ามีเครื่องบินหายไป ได้มีปฏิบัติการค้นหาทันที โดยมีการนำเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และเรือกู้ชีพ สำรวจในพื้นที่ 1,155 ไมล์ทะเล ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่เครื่องบินหายไป

เพียงแต่ด้วยอุปสรรคเรื่องของแรงลมและสภาพอากาศในทะเลที่เลวร้าย ทำให้ทัศนวิสัยต่ำ สุดท้ายปฏิบัติการค้นหาถูกยกเลิกครั้งแรกในเวลาราว 02.00 น. ของคืนวันเดียวกัน

ก่อนที่จะกลับมาเริ่มปฏิบัติการใหม่อีกครั้งในเวลา 08.00 น. ของเช้าวันถัดไป และได้มีความพยายามค้นหายาวนานจนถึง 17.00 น. ก่อนที่ปฏิบัติการในวันนี้จะถูกยกเลิก

เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิร์นซีย์ยอมรับว่า โอกาสที่จะมีปาฏิหาริย์นั้นน้อยมาก

“ถ้าพวกเขาแลนดิ้งลงบนน้ำ โอกาสที่จะมีคนรอดในเวลานี้นั้น น่าเศร้าที่เราต้องบอกว่ามีน้อยมาก”

ด้าน จอห์น ฟิตซ์เจราลด์ หัวหน้าทีมค้นหาภาคพื้นอากาศ บอกว่า สมมติหากเครื่องแลนดิ้งลงได้สำเร็จ แต่โอกาสที่จะอยู่รอดในสภาวะที่น้ำเย็นจัด อากาศหนาวจัดแบบนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้

ต่อให้เขายังรอดได้จริงในช่วงแรกหลังเครื่องบินตก โอกาสที่จะอยู่รอดก็จะลดน้อยลงไปในระดับวินาที เพราะอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เย็นจัดจะลดอุณหภูมิในร่างกายของใครก็ตามที่ตกลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว

สำหรับสิ่งที่เจ้าหน้าที่พบในเวลานี้ไม่มีซาลาและผู้โดยสาร รวมถึงนักบิน หากแต่มี ‘วัตถุ’ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ในเวลานี้ว่าวัตถุนั้นคือเศษซากของเครื่องบินหรือไม่

ทีมค้นหาจะตรวจสอบและยืนยันอีกครั้ง ว่าวัตถุนั้นคือซากเครื่องบินที่พวกเขาค้นหาหรือไม่

แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาอยากยืนยันก็ตาม เพราะนั่นหมายถึงคนที่พวกเขาและพวกเราตามหาอาจจะหายไปตลอดกาล

นักฟุตบอลผู้อ่อนโยนและเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน

ชื่อของ เอมิเลียโน ซาลา อาจไม่ใช่สตาร์ชื่อก้องที่ใครต่อใครรู้จักนัก และเขาก็ยังไม่เคยติดทีมชาติอาร์เจนตินาแม้แต่ครั้งเดียว

แต่สำหรับคนที่รู้จัก ไม่มีใครที่ไม่รักดาวยิงคนนี้

ซาลาเป็นกองหน้าฝีเท้าดี และมีสไตล์การเล่นที่แข็งแรง เพราะเขาพยายามทำตัวให้เหมือนกับไอดอลในดวงใจอย่าง กาเบรียล บาติสตูตา อดีตดาวยิงระดับตำนานของทีมชาติอาร์เจนตินา

มากกว่านั้นคือ การเป็นคนที่มีจิตใจดี เป็นที่รัก มีความคิด และเป็นนักฟุตบอลที่น่ายกย่อง

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แฟนบอลที่รู้จักเขาบอกเล่ามา

เช่นกันกับคนที่เคยร่วมงานกับเขาอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี อดีตผู้จัดการทีมเลสเตอร์ฯ ที่เคยคุมทีมน็องต์อยู่จนถึงฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นปีที่ซาลาทำผลงานได้ร้อนแรง โดยเป็นดาวซัลโวประจำสโมสร

“ตอนที่เราร่วมงานกันที่ฝรั่งเศส เขาเป็นนักฟุตบอลที่วิเศษที่พร้อมทุ่มเทเต็มร้อยเสมอ

“เอมิเลียโนเป็นคนที่มีบุคลิกพิเศษ ยิ่งได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวแล้ว จะรู้ว่าเขาเป็นนักสู้”

เพราะความใจสู้ ทำให้ซาลาลบคำสบประมาทจากทุกคนที่เคยมองเขาเป็นตัวตลก เพราะบุคลิกและท่าทางในการเล่นที่ไร้ความสง่างามและมีเทคนิคการเล่นที่ไม่สูงนัก ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับนักเตะที่มาจากชาติที่เทคนิคสูงส่งอย่างอาร์เจนตินา แม้ว่าส่วนหนึ่งแล้วเป็นเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์การเล่นในบ้านเกิดเลย เพราะออกมาผจญภัยในฝรั่งเศสตั้งแต่อายุยังน้อยก็ตาม

ความใจสู้ทำให้คนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองอย่างเขา กลับมาได้ภายใต้การปลุกปั้นของโค้ชจอมเก๋า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยเป็นศูนย์หน้าของน็องต์เหมือนกับเขา

“เขาเป็นคนหนุ่มที่อารมณ์อ่อนไหว เขาต้องมั่นใจมากกว่านี้ ดังนั้นสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวเองก่อน บางทีหลังจากนั้นเราอาจจะคุยกันในแบบกองหน้าคุยกับกองหน้า” ฮาลิลฮอดซิช เคยกล่าวถึงซาลา ซึ่งเคยเกือบจะโดนขายทิ้งให้กาลาตาซารายในช่วงซัมเมอร์ แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจขอสู้ต่อ แม้ว่าจะไม่ชอบการทำงานกับ มิเกล คาร์โดโซ อดีตโค้ชคนก่อนก็ตาม

สุดท้าย ซาลาเรียกฟอร์มกลับมาได้ โดยระยะเวลาจากเดือนตุลาคมถึงธันวาคม เขาทำได้ถึง 8 ประตู และรวมทั้งหมดในฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้วถึง 13 ประตูด้วยกัน อยู่ในกลุ่มท็อปของดาวซัลโวลีกเอิง ฝรั่งเศส และเทียบเท่าผลงานการทำประตูในลีกที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำได้ด้วย

สำหรับสไตล์ของดาวยิงวัย 28 ปี มีการเปรียบเปรยกันว่า หากเขาเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เขาก็คงจะเป็นเหมือน เจมี วาร์ดี ศูนย์หน้าตัวฉกาจของเลสเตอร์ ซิตี้ เพราะซาลาทำได้ดีในทีมที่เล่นเกมสวนกลับเร็ว

เขามีความตื่นตัว ความเร็ว มีลูกตื๊อ และไว้ใจได้ ที่สำคัญคือเขาเป็น Fox-In-The-Box หรือศูนย์หน้าที่มีพรสวรรค์ในการทำประตูในกรอบเขตโทษ หาจังหวะทำประตูได้เก่ง และอันตรายในลูกตั้งเตะเพราะโหม่งได้ดี

หากวาร์ดีประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกได้ ก็ไม่แปลกที่คาร์ดิฟฟ์ฯ จะหวังว่า เขาจะทำได้แบบเดียวกัน

และด้วยบุคลิกส่วนตัวของเขาแล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ชาวบลูเบิร์ดหลงรัก

เหมือนกับแฟนบอลกลุ่มหนึ่งที่ได้มีโอกาสพบกับเขาในค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา

“คืนนั้นเราทานอาหารเสร็จ และกำลังจะไปเล่นฟุตบอลกัน แต่เราคิดว่า เขาจะอยู่ที่สนามหรือเปล่า ก็เลยไปดูกัน เราเห็นเขาผ่านหน้าต่างจากมุมทางเข้าหลัก เขากำลังเซ็นเอกสารอยู่ ดังนั้นพวกเราก็เลยรอกันอยู่ข้างนอก เพื่อลุ้นว่าเขาจะออกมาหาเราได้ไหม สุดท้ายเขาก็ออกมาจริงๆ เขาใจดีมากที่ออกมาหาพวกเราและถ่ายรูปคู่กับพวกเรา เขาถามว่า พวกเราเป็นอย่างไรบ้าง เขาดูเป็นคนดีจริงๆ”

ข้อความสุดท้ายจากฟากฟ้า ‘พ่อรู้ไหมผมกลัวแค่ไหน’

ต้องยอมรับว่า ทุกเข็มนาฬิกาที่เดินไป ความหวังก็ยิ่งเหลือน้อยลงทุกที

ล่าสุด Marca สำนักข่าวจากสเปน เปิดเผยคลิปเสียงชวนหัวใจสลาย โดยอ้างว่าเป็นคลิปเสียงของ เอมิเลียโน ซาลา ที่บันทึกไว้และส่งเข้ากลุ่ม whatsApp

ข้อความนั้นบันทึกไว้ว่า “เป็นอย่างไรกันบ้างพี่น้อง

“ผมกำลังจะตายแล้ว ก่อนนี้ผมอยู่ที่น็องต์ ทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากมายโดยแทบไม่ได้หยุด

“ตอนนี้ผมอยู่บนเครื่องบินที่ดูเหมือนกำลังจะหลุดออกเป็นเสี่ยงๆ และผมกำลังเดินทางไปคาร์ดิฟฟ์

“วันพรุ่งนี้เราจะได้เริ่มต้นกัน ในช่วงบ่ายผมจะเริ่มซ้อมกับเพื่อนใหม่ของผม รอดูว่ามันจะเป็นอย่างไรกัน ว่าแต่ทุกคนสบายดีใช่ไหม?

“ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าไม่ได้ยินข่าวอะไรจากผม ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะส่งใครมาตามหาผมไหม เพราะพวกเขาคงหาผมไม่เจอ แต่พ่อ พ่อรู้ใช่ไหมว่าผมกลัวแค่ไหน!?”

หากเป็นของจริง เสียงสุดท้ายจากซาลาที่เราได้ยิน ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวและคล้ายจะรู้อะไรบางอย่าง

อาจจะดูเป็นลาง แต่แฟนคาร์ดิฟฟ์ฯ คนหนึ่งกล่าวถึงซาลาว่า “เขาจะได้รับการจดจำว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดที่เราไม่เคยมี”

แม้กระทั่งที่สโมสรคาร์ดิฟฟ์ฯ ก็ยังไม่มีเสื้อของซาลาจำหน่าย เพราะเขายังไม่ได้เลือกหมายเลขเสื้อประจำตัว

แน่นอนว่า ไม่มีผ้าพันคอลายของเขา รวมถึงสินค้าใดๆ แบบที่ควรจะมี

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและดูเหมือนจะจบลงอย่างรวดเร็วเกินไปและเกินจะทำใจ ไม่ว่าจะสำหรับคาร์ดิฟฟ์ฯ สำหรับน็องต์ หรือสำหรับใคร

ยกเว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์ที่แสนมหัศจรรย์เกิดขึ้น ซึ่งเราทุกคนยังคงหวังให้เป็นเช่นนั้น

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

FYI

หลังข่าวเครื่องบินของซาลาหายไป นีล วอร์น็อก ผู้จัดการทีมคาร์ดิฟฟ์ฯ และบอร์ดบริหารได้สั่งยกเลิกการซ้อมในวันอังคาร และอาจรวมถึงงดซ้อมในวันพุธด้วย
น็องต์ก็สั่งยกเลิกการซ้อมเช่นกัน และเกมเฟรนช์คัพกับทีมอ็องตองต์ ซังนัวส์ แวงต์ กราแตง ก็ได้ถูกเลื่อนออกไปก่อน
ซาลาเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีกลาย ซึ่งเป็นช่วงที่เขาทำผลงานได้ร้อนแรง และมีสถิติการทำประตูที่ดีกว่า ลิโอเนล เมสซี ว่า “เป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ การพัฒนาตัวเองมากกว่า”
คาร์ดิฟฟ์ฯ พยายามตามตื๊อขอซื้อซาลาจากน็องต์ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม เพื่อทดแทนสองกองหน้าอย่าง คัลลัม เพเตอร์สัน และ เคนเนธ โซโฮร์ ที่บาดเจ็บ แต่ข้อเสนอแรกถูกน็องต์ปฏิเสธทันที