วันนี้ (7 สิงหาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานพลุและประทัดระเบิดที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุมูโนะระเบิด โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เราต้องสูญเสียคนรักและหลายท่านที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่จะต้องนำมาเป็นบทเรียนให้กับทุกภาคส่วน ในการตระหนักถึงการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำซ้อนอีก
เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราจะต้องหาหนทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นซ้ำ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ต้องทำงานอย่างเข้มงวดและจริงจัง คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นประการสำคัญ
“เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้ว ผมได้เห็นธารน้ำใจของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด อยู่ในภาคไหนของประเทศไทย ความช่วยเหลือได้หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก
ขอขอบคุณทุกน้ำใจและคนไทยจากทั่วทุกภาค ผมต้องขอขอบคุณทุกคนนะครับที่ให้การสนับสนุนประชาชนชาวมูโนะ จังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้” พล.อ. ประวิตร กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว พล.อ. ประวิตร ได้พากรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงทุกหน่วยงาน จะเข้ามาช่วยสร้างอาชีพให้กับชาวมูโนะ โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่ทำกินที่ต้องเร่งฟื้นฟูให้ชาวมูโนะอย่างรวดเร็วที่สุด
ขณะที่วันนี้ยอดการบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวมูโนะผ่านบัญชีของจังหวัดนราธิวาสมีจำนวนมากกว่า 23 ล้านบาทแล้ว นับเป็นความช่วยเหลือจากประชาชนคนไทยที่ได้ร่วมกันบริจาค ซึ่งเราหวังว่าจะมีการบริจาคเข้ามาเพิ่มอีก
“ในขณะนี้เงินจาก 3 กองทุนที่ได้ให้กับจังหวัดนราธิวาสยังไม่เพียงพอ ยังขาดงบประมาณอยู่อีก 30 ล้านบาทต่อการซ่อมแซมและสร้างบ้าน ซึ่งก็ได้รับการบริจาคจากพี่น้องประชาชนเข้ามาช่วยในส่วนนี้” พล.อ. ประวิตร กล่าว
พล.อ. ประวิตร ยังได้กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเองได้พยายามหาเงินจากทุกภาคส่วน เพื่อมาช่วยเหลือพี่น้องชาวมูโนะให้ได้มีอาชีพ มีที่ดินทำกิน และสำหรับเงินที่ประชาชนช่วยกันบริจาคเข้ามานั้น ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสบริหารเงินบริจาคให้มีความโปร่งใส และนำเงินบริจาคไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วย พร้อมทั้งฝากให้มีการเร่งก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด