วันนี้ (31 ม.ค.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายในงานสานสัมพันธ์ สื่อมวลชนสายทหาร ที่จัดให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นายทหารระดับสูงได้มาพบปะสื่อมวลชนเป็นประจำทุกปีว่า เป็นโอกาสที่จะได้ดูผลงานของกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เราดำเนินอะไรบ้าง ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนงานรัฐบาลมาตลอด 3 ปี 8 เดือน ในด้านความมั่นคงทุกเรื่อง ทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่มีอะไรที่เกิดการบั่นทอนและความแตกแยกเกิดขึ้น เห็นอย่างชัดเจนว่า ได้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ สุจริตประชาชนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่แบ่งสี ซึ่งทำมาอย่างยากลำบาก ในการประคับประคองบ้านเมืองให้ไม่ขัดแย้งควบคู่การรักษาเสถียรภาพของประเทศ และให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลงดำเนินต่อไปได้
ทั้งนี้มีความยากลำบากและแรงเสียดทานอยู่บ้าง มีคนอยู่จำพวกหนึ่ง พยายามจัดหาว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้ผลไม่ตรวจตามประสงค์ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน ทุ่มเทมาตลอด 3 ปี พยายามต่อสู้กับแรงเสียดทานตามกฎหมาย รัฐบาลทำตามระเบียบแบบแผน ไม่มีนอกลู่นอกรอย และกองทัพเป็นกลไกของรัฐบาล เป็นแก่นหลักข้างประชาชนตลอด ช่วยและสนับสนุนประชาชน รักษาประเทศชาติให้เกิดความสงบให้ได้ คสช. เข้ามา ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ อยู่อย่างมีความสงบ ต้องอาศัยสื่อในการช่วยสร้างการรับรู้กับประชาชน
ทั้งนี้การลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่ได้ไปหาเสียง แต่ไปสร้างการรับรู้ และช่วยเหลือประชาชนถึงระดับรากหญ้า แก้ปัญหาความยากจน เพราะท่านไม่ได้ลงเลือกตั้ง จึงไม่ต้องไปหาเสียง ขออย่าไปเล่นด้านการเมืองกัน
พร้อมกันนี้ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ทหารกับสื่อไม่มีความขัดแย้งกัน ที่ผ่านมาสื่อเสนอข่าวตรงไปตรงมา ซึ่งพวกเราทุกคนต้องการให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ตนไม่ได้ขอร้องว่าต้องทำอย่างนู้นทำอย่างนี้ ส่วนตัวรับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 ก็ 50 ปีแล้ว รับราชการมาตลอดก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรต่างๆ เลย ขอให้ดูเอาว่าตนทำอะไรที่เสียหายกับประเทศไหม ตนมาทำงานเพราะอยากช่วยเหลือบ้านเมือง
“ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้” พล.อ. ประวิตร กล่าว
เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากกับนักข่าวสายทหารทุกคนว่า ก็ดูเอาละกันว่าทำงานมาตลอด 50 ปี ได้ทำงานมาอย่างไร