วันนี้ (27 ตุลาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยอาจจะสนับสนุน พล.อ. ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ. ประวิตรระบุเพียงว่า “ยังไม่ถึงเวลา รอให้เลือกตั้งก่อน” จากนั้นก็เดินทางออกจากพรรคทันที
ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามสื่อมวลชนที่พรรคพลังประชารัฐ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของพรรคก่อนการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ภาคใต้ให้ครบทั้ง 58 เขตเลือกตั้ง แต่วันนี้เปิดเผยรายชื่อเบื้องต้นเพียง 19 รายชื่อก่อน พร้อมยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด และกระแสของพรรคยังพอใช้ได้ จึงคิดว่าจะได้ ส.ส. จำนวนหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีว่าจะยังคงเป็น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่หรือไม่นั้น สมศักดิ์กล่าวว่า ทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตรเป็นสองท่านที่ทำให้พรรคเราเดินต่อไปได้ แต่ส่วนตัวยังตอบไม่ได้ว่าจะชูทั้งสองท่านนี้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พร้อมทั้งปฏิเสธถึงการพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ในเรื่องนี้
สมศักดิ์ยังได้กล่าวถึงกระแส ‘นายกฯ คนละครึ่ง’ ที่จะให้ พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯ 2 ปีแรก และ พล.อ. ประวิตรเป็นนายกฯ 2 ปีหลังว่า อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนสับสน ให้ถึงเวลาก่อน ซึ่งยังอีกนาน รัฐบาลอยู่ครบวาระวันที่ 23 มีนาคม 2566 นับจากวันนี้ก็อีก 5 เดือน ถ้าเราพูดกันแต่เรื่องนี้ก็อาจทำให้ขาดการจดจ่อกับการแก้ปัญหาของประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ สมศักดิ์ตอบว่า ยังไม่เห็นเหตุหรือปัญหาใดที่ต้องทำให้ยุบสภา “ตอนนี้กระแสของพรรคเราดีมาก จนต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งให้เร็ว หรือกระแสเราแย่จนไปไม่ไหวเลยต้องยุบสภา ตอนนี้ยังไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ก็เดินสายกลางๆ ยังไปได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้านั้น ปรากฏว่าสมศักดิ์ส่ายหน้า และตอบเพียงว่าไม่ทราบ ก่อนจะขึ้นรถยนต์เดินทางออกจากพรรคพลังประชารัฐไป
