วันนี้ (28 เมษายน) เวลา 18.00 น. พรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรกของพรรค ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติสงขลา นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค เช่น สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ, วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค, ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค, นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และแกนนำภาคใต้ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสงขลา ทั้ง 9 เขต ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนกว่า 8,000 คน
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันทีที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญคือลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พรรคพลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น
นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายดูแลทุกช่วงวัย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือนจนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ เพื่อให้สตรีมีขวัญกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร และอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ ‘มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน’ ที่เราได้บริหารจัดการมากว่า 3 ปี ได้ทำให้น้ำบนดิน น้ำใต้ดิน น้ำบ่อ น้ำตื้นต่างๆ เช่นเดียวที่ดินกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่ ที่อาศัย ที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ ทั้งนี้ เราจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศจำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจน
ขณะที่ ดร.คณิศกล่าวว่า วันนี้หัวหน้าพรรคให้ช่วยมาดูเศรษฐกิจภาคใต้ว่าจะสามารถช่วยพัฒนาได้อย่างไร ซึ่งภาคใต้ประกอบไปด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ที่พรรคจะผลักดันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบเดียวกันกับภาคตะวันออก ที่จะเห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเป็นเท่าตัว ซึ่งภาคใต้ถือเป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นรากแก้วที่ต้องทำให้เกิดการฟื้นตัว โดยหัวหน้าพรรคได้มีการคุยกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ทั้งสองฝั่งร่วมกัน
เมื่อพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาล สิ่งที่ทีมของเราจะทำคือการดูแลเรื่องสินค้าเกษตร การท่องเที่ยวทั้งระบบ ท่าเรือ รวมถึงการเปิดเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสงขลามีชายหาดยาวกว่า 200 กิโลเมตร เราจะเอาเศรษฐกิจลงไปช่วยเรื่องการท่องเที่ยว โดยจะพัฒนาเป็นแลนด์บริดจ์เชื่อมติดกับอันดามันและฝั่งอ่าวไทย รวมถึงอีกหลายแห่ง เช่น สุราษฎร์ธานี กระบี่ และจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ เพื่อสานต่อโครงการเซาท์เทิร์นซีบอร์ดให้ทั้ง 14 จังหวัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่จะยกระดับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะเป็นอนาคตสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับลูกหลานต่อไป
“ถ้าอยากจะให้เราทำและให้เป็นอนาคตของลูกหลานต่อไป ขอความกรุณาเลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ดร.คณิศกล่าว