วานนี้ (25 พฤศจิกายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนจัดหาสิ่งของพัฒนาวัด และปรับปรุงพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม จังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ตรีนุช เทียนทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสระแก้ว และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, วิรัช รัตนเศรษฐ, พล.อ. วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, พล.อ. ณัฐ อินทรเจริญ, รัชนี พลซื่อ สส. จังหวัดร้อยเอ็ด และ กาญจนา จังหวะ สส. จังหวัดชัยภูมิ ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีประจำปี 2566
ภายหลังเสร็จพิธีทอดกฐิน พล.อ. ประวิตร ได้เป็นประธานเปิดศาลาอเนกประสงค์บริเวณหน้าพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม พร้อมทั้งถวายผ้าห่มพระประธานและสักการะพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล
พล.อ. ประวิตร ได้ทักทายประชาชน สาธุชน ที่มาร่วมทำบุญในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ท่ามกลางบรรยากาศให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองและอบอุ่น ในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ที่ได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ซึ่ง พล.อ. ประวิตร ยังได้มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเคยมาปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนี้ด้วย ในสมัยที่ พล.อ. ประวิตร เดินทางมาปฏิบัติราชการเมื่อหลายปีก่อน
เดินหน้าร่วมภารกิจทอดกฐิน
ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พล.อ. ประวิตร พร้อมคณะ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคีที่วัดเกาะแก้วและวัดโพธิ์เผือก ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมถวายจตุปัจจัยสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะของทั้ง 2 วัด รวมถึงยังได้ประกอบพิธีทักษิณานุประทาน อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแด่ สายสนี วงษ์สุวรรณ ผู้เป็นมารดาอีกด้วย
ประวิตร ป. เดียวที่ยังอยู่ในการเมืองไทย
พล.อ. ประวิตร เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกวัย 78 ปี เริ่มต้นชีวิตบนถนนการเมืองด้วยการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนจะห่างหายไปจากหน้าการเมืองไทย
กลับมาอีกครั้งเมื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พร้อมนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ พล.อ. ประวิตร กลับมาเป็นรองหัวหน้า คสช., รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ก่อนเข้าสู่การเมืองแบบเต็มตัวในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองในชื่อพรรคพลังประชารัฐ ส่ง พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแบบไร้รอยต่อหลังเลือกตั้งปี 2562
ในการเลือกตั้งปี 2566 พล.อ. ประวิตร และ พล.อ. ประยุทธ์ ได้แยกกันตั้งพรรค โดย พล.อ. ประยุทธ์ ออกไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วน พล.อ. ประวิตร ขึ้นเป็นแคนดิเดตและ สส. บัญชีรายชื่อหนึ่งเดียวของพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง
ภายหลังการเลือกตั้งปี 2566 พี่น้อง 3 ป. อันประกอบด้วย พล.อ. ประยุทธ์ เลือกยุติบทบาททางการเมือง ออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติไปพักผ่อนกับครอบครัว ส่วน พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ห่างหายไปจากการเมือง คงเหลือเพียง พล.อ. ประวิตร ที่ยังมีทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและ สส. บัญชีรายชื่อ และน้องชาย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ยังคงอยู่ในอำนาจรัฐ
ประวิตรยังไม่คิดวางมือทางการเมือง
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของ พล.อ. ประวิตร นั้น เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงสถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐและพร้อมจะรับไม้ต่อจาก พล.อ. ประวิตร หรือไม่ว่า ท่านยังแข็งแรง และไม่ได้มีการฝากฝังอะไร เพราะท่านดูแลอยู่แล้ว พร้อมปฏิเสธว่า ท่านไม่ได้จะลาออกตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ เพราะท่านยังแข็งแรง พร้อมย้ำว่า ท่านยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่อ ส่วน พล.อ. ประวิตร จะลาออกทางการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า “ไม่หรอก แกชอบ”
