วันนี้ (6 มิถุนายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา พร้อมสะท้อนประสบการณ์ตลอดหลายทศวรรษที่เคยปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน โดยย้ำว่าความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง
พล.อ. ประวิตร เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ไม่ยอมให้การรุกล้ำอธิปไตยถูกมองข้าม และให้ความสำคัญกับมาตรการตอบโต้ที่สมเหตุสมผล ทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจ กฎหมาย และศักยภาพทางทหาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย
พล.อ. ประวิตร กล่าวอย่างชัดเจนว่า ไทยยึดหลักสันติวิธี ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่หากอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจ ไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ กลับปลุกปั่น ป้ายสี และยกระดับปัญหาไปสู่เวทีโลก ไทยก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือในทุกมิติ เพราะการประนีประนอมแบบไม่ลึกซึ้งจะยิ่งทำให้คู่เจรจาไม่เกรงใจและไม่เกรงกลัว
พล.อ. ประวิตร กล่าวย้ำว่า กติกาสากลมีไว้ใช้กับ ‘สุภาพบุรุษ’ และเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเจรจาด้วยความจริงใจ ก็ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุกที่สร้างแต้มต่อให้ฝ่ายไทยได้เปรียบ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ พร้อมเรียกร้องให้มีการสื่อสารกับประชาชนและมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเวทีระหว่างประเทศ
พล.อ. ประวิตร ขอส่งสารไปถึงกำลังพลในพื้นที่ชายแดน โดยขอชื่นชมกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 และกำลังพลทุกนายที่เสียสละเฝ้าระวังภัยคุกคามต่อผืนแผ่นดินด้วยความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว พร้อมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
พล.อ. ประวิตร เน้นย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในสันติภาพ แต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยแม้แต่น้อย ต้องพร้อมปกป้องด้วยชีวิต เพราะแผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทยเท่านั้น พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่นโยบายระดับสูงจนถึงทหารด่านหน้า เพื่อปกป้องแผ่นดินด้วยหัวใจแห่งความรักชาติ