วันนี้ (26 สิงหาคม) ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ รัฐมนตรีอาวุโสกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บริเวณชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อหารือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทยและมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
พล.อ. ประวิตรกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีอาวุโสฯ และคณะ ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกันเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยกับมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันไว้ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตลอดจนเป็นโอกาสหารือแนวทางเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันจัดประชุมกลไกความร่วมมือเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ให้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยและมาเลเซีย
ด้านรัฐมนตรีอาวุโสฯ ได้ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่อำนวยความสะดวกในการเยือนไทยเป็นอย่างดี และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย และเพื่อหารือความคืบหน้าของการดำเนินโครงการความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งไทยและมาเลเซียได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โครงการต่างๆ ระหว่างกันมีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ซึ่งทางคณะได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีจากหน่วยงานไทย โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง การออกแบบ และการซ่อมบำรุง ซึ่งหน่วยงานของไทยมีศักยภาพสูง โดยฝ่ายมาเลเซียจะได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปเป็นแนวปฏิบัติต่อไป
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางการผลักดันโครงการความเชื่อมโยงที่คั่งค้างระหว่างกันให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ณ อำเภอสุไหงโก-ลก (สุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง) แห่งที่ 2 และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส-เปิงกาลันกูโบร์ มาเลเซีย
ซึ่งรัฐมนตรีอาวุโสฯ พร้อมเร่งรัดการดำเนินในรายละเอียดให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว รวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านศุลกากรบูกิตก ยูฮิตัม มาเลเซีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group: EWG) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่าโครงการความเชื่อมโยงเหล่านี้จะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ