วันนี้ (23 มีนาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมเปิดตัว พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 74 คน
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า พล.อ. ธรรมรักษ์มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยการทาบทามจากผู้บริหารของพรรค เพื่อที่จะให้ท่านมาช่วยในพื้นที่อีสาน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะถือว่ามีความชำนาญและมีประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ พล.อ. ธรรมรักษ์ ที่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ต้องนับว่าเป็นบุญคุณอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าท่านจะอายุมาก แต่อายุไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับสมอง
ด้าน พล.อ. ธรรมรักษ์กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว แต่ในเมื่อ พล.อ. ประวิตรให้เกียรติมาเชิญไปร่วมทำงานจึงตอบตกลง รวมถึงตนมีแนวคิดที่ตรงกับนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงการสร้างความปรองดอง เพราะคนไทยเกิดความแตกแยก มีความเหลื่อมล้ำสูง ซึ่งตลอดชีวิตรับราชการตนได้ทำโครงการเกี่ยวกับการสร้างความสามัคคี เช่น คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 เรื่องนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นนโยบายสร้างความประนีประนอม รวมถึงโครงการภาคใต้ร่มเย็น
“เมื่อพรรคพลังประชารัฐเต็มใจที่จะทำเรื่องนี้ ผมจึงตัดสินใจมาร่วมงานกับ พล.อ. ประวิตร ส่วนเรื่องสุขภาพมั่นใจว่ายังแข็งแรงดีอยู่ ไม่แก่เกินไป” พล.อ. ธรรมรักษ์กล่าว
ภายหลังการเปิดตัว พล.อ. ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ. ธรรมรักษ์ เข้าพรรคว่าจะมาดูแลพื้นที่ทั้งหมดในภาคอีสาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว พล.อ. ธัญญา เกียรติสาร กับ วิรัช รัตนเศรษฐ ทำงานยังไม่ลงรอยกันในพื้นที่ภาคอีสาน จึงต้องดึง พล.อ. ธรรมรักษ์มาช่วยดูแล พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า คนละเขตกัน จะไปลงรอยได้อย่างไร ระหว่างอีสานเหนือและอีสานใต้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทั้งคู่ไม่ได้ขัดแย้งกันใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี จะไปขัดแย้งกับใคร สื่อคิดไปเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าจะมี ส.ส. บางส่วนของวิรัชย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ. ประวิตรระบุ ก็ไปสิ ไม่ได้ว่าอะไรเลย ใครอยากไปก็ไป ตนบอกแล้ว เพราะของตนที่มามีตั้ง 500 คน จึงทับกันไปมาอยู่แล้ว อย่างนี้เรียกว่าทับกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการกินข้าวกลางวันกับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้ เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ. ประวิตรระบุว่า กินข้าวบ้านผมก็ต้องอร่อย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นแบ่งกันแล้วพรรคละ 70 ที่นั่ง พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ใครบอก จากนั้นผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า เป็นรายงานข่าว ก่อนที่ พล.อ. ประวิตรจะตอบกลับว่า ผู้สื่อข่าวที่ไหน บอกมาว่าใคร ผมจะไปเล่นงาน ก่อนจะหัวเราะ ส่วนจะได้มากกว่า 70 ที่นั่งหรือไม่นั้น พล.อ. ประวิตรกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า เดี๋ยวถ้าตอบว่าไม่รู้ก็หาว่าตนไม่รู้อีก เดี๋ยวจะมีเพลงไม่รู้ออกมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่า พล.อ. ประวิตรเป็นผู้จัดการรัฐบาลแล้วขณะนี้ พล.อ. ประวิตรตอบกลับว่า เป็นผู้จัดการรัฐบาลที่ไหนวะ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะบอกว่า ก็นี่ไง รัฐบาลใหม่ พล.อ. ประวิตรทำท่ามันเขี้ยวสื่อ พร้อมกล่าวว่ายังไม่เลือกตั้งเลย และสื่อคิดเองและพูดเอง จากนั้นผู้สื่อข่าวกล่าวกับ พล.อ. ประวิตรว่า ดังนั้นปฏิเสธว่าไม่จริงได้หรือไม่ พล.อ. ประวิตรจึงตอบว่า ไม่ได้ปฏิเสธ แต่สื่อพูดเองเออเองตลอด ใช่หรือเปล่า ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานนี้ในวงกินข้าวมีการพูดว่าใครได้มากกว่าก็เป็นนายกฯ ไป พล.อ. ประวิตรยืนยันว่า “ไม่มี ไม่มี ไม่ถามแล้ว หยุดพูดตั้งแต่บัดนี้”
