วานนี้ (5 พฤษภาคม) ประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเพื่อประชาชน และอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงจุดยืนเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า
“ผมเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลมีกระแสดี เหตุเพราะมีความชัดเจนและคนรุ่นใหม่ชอบความชัดเจน ผมเจ็บปวดที่สุดวันที่พรรคก้าวไกลยื่นฟ้องศาลให้กัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ขอย้ำว่ามันคือการฟ้องศาล พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำแบบพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ หรือประชาชาติ ที่แสดงความเห็นกัญชาในเชิงนโยบายของพรรค แต่พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นยิ่งกว่าว่ากัญชาต้องเป็นยาเสพติด นั่นคือการดำเนินการมากกว่าพรรคอื่น คือดำเนินการฟ้องศาลให้เป็นยาเสพติด
“ผมเป็นกรรมาธิการ พ.ร.บ.กัญชา ในนามพรรคก้าวไกลร่วมกับคุณเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. พรรคก้าวไกล เหตุที่ผมได้เป็น กมธ. ในนามพรรคก้าวไกล ทั้งที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็เพราะว่าภาคประชาชนได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.กัญชา ให้พรรคก้าวไกลรับไปดำเนินการต่อในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร คำถามที่สำคัญคือ หลักการ พ.ร.บ.กัญชา ของประชาชนถูกพรรคหยิบทิ้งไปตั้งแต่เมื่อไร จึงขอส่งคำถามถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่ผู้นำที่คนรุ่นใหม่สนับสนุน
“1. จุดยืนของคุณเรื่องกัญชาเปลี่ยนไปตามกระแสและผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ หลังจาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่ผ่านสภา ปฏิบัติการเกี่ยวกับกัญชาของพรรคคุณเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนับแต่บัดนั้น คำถามคือพวกคุณเปลี่ยนเรื่องกัญชาจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะอะไร
“2. คำถามที่สำคัญคือมีเหตุผลอะไรที่พรรคก้าวไกลจะเอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด
“3. มันตลกกับตรรกกะที่บอกว่า ‘เอากลับไปเป็นยาเสพติดก่อนแล้วค่อยเปิดให้ประชาชนเข้าถึง’ มันเหมือนการอธิบายว่าปลูกมะเขือแล้วจะได้กินฟักทอง เมื่อกัญชาไปเป็นยาเสพติดแล้ว กติกาที่ประชาชนจะใช้ได้นั้นแคบมาก ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงธุรกิจเบียร์ที่พรรคก้าวไกลต่อสู้อยู่ พวกคุณเจ็บปวดเรื่องเบียร์แต่เหยียบกัญชา มันเพราะอะไร
“กัญชาเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนปีที่แล้ว โดยมันถูกขังคุกจากการผลักดันของกลุ่มอิทธิพลในสหรัฐอเมริกามากว่า 40 ปี แล้วหน่วยงานรัฐไทยก็ช่วยกันเอากัญชาออกมาให้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้คน โดยบอกว่าแม้ว่าจะอยู่ร่วมกับผู้คนก็ต้องมีกฎหมายควบคุมโดยใช้กฎหมายระดับ พ.ร.บ. เพื่อให้กัญชาใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ นี่คือแนวทางของการเคารพสิทธิ
“พรรคก้าวไกลกลับมีจุดยืนว่า แม้มันออกจากคุกมาแล้วก็ต้องเอาไปขังคุกต่อ เมื่อมันอยู่ในคุกแล้วเราค่อยมาพูดถึงสิทธิของประชาชนในการใช้กัญชา แบบนี้คือวิธีคิดของนักประชาธิปไตยเหรอครับ หัวใจของความผิดพลาดของพรรคก้าวไกลเรื่องกัญชาคือไม่ได้ตัดสินจากข้อเท็จจริงแต่ตัดสินจากภาวะทางการเมือง อีกไม่กี่วันกระแสการเลือกตั้งจะจบ โลกของความจริงจะเข้ามาเยือนแทนกระแสแล้วนะครับ แน่ใจแล้วใช่ไหมครับว่าจะเอาแบบนี้
“ทั้งนี้ ยังได้เชิญชวนคนที่ไม่เห็นด้วยกับการนำกัญชาสู่ยาเสพติด ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีสาธารณสุข เราต้องหากฎหมายรูปแบบหนึ่งมาให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่ากัญชามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และข้อเสียสามารถใช้กฎหมายควบคุมได้ นั่นคือกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ”
อ่านเนื้อหาเต็มได้ที่นี่: