วานนี้ (5 กรกฎาคม) ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงกรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล
ประเสริฐกล่าวว่า 312 คะแนนเสียงชุดนี้ที่มีอยู่ (8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล) คงไม่น่ามีขั้วรัฐบาลเดิมมาโหวตให้พิธามากเท่าไร ทั้งนี้ ได้กำชับสมาชิกพรรคอย่างชัดเจนว่า “ไม่แตกแถวในการโหวตเลือกพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ”
ขณะที่การรวบรวมเสียงในการโหวตนายกฯ เท่าที่ทราบจากพรรคก้าวไกลก็มีความมั่นใจว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะเทคะแนนเสียงให้พิธา ซึ่งพรรคก้าวไกลคงจะต้องเรียกประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลร่วมเข้ามาหารือ เพื่อชี้แจงความคืบหน้าและการดำเนินการเรื่องต่างๆ รวมถึงการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกำหนดการวันประชุมนั้น ประเสริฐเผยว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน เนื่องจากวันโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (3 กรกฎาคม) และวานนี้ (5 กรกฎาคม) หลายๆ พรรคไปจัดแจงเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ตาม คงมีการพูดคุยเรื่องการกำหนดวันประชุมเร็วๆ นี้
สำหรับประเด็นที่วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ต้องโหวตกันจนกว่าจะได้นายกฯ และพิธาได้รับโอกาสอย่างน้อย 2 ครั้งในการโหวต หากไม่ผ่านต้องส่งต่อให้พรรคเพื่อไทยจัดการ”
ประเสริฐเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการพูดคุยกัน เพียงแต่พรรคเพื่อไทยพูดคุยกันเบื้องต้นว่า “8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะสนับสนุนให้พิธาเป็นนายกฯ ให้ถึงที่สุด” ตามบันทึกข้อตกลง (MOU)
อีกทั้งขอยืนยันว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังคงจับมือกันเหนียวแน่น ไม่มีดีลสลับขั้ว หากจะมีอะไรเกิดขึ้นต้องผ่านการคุยกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อน
“ฉะนั้นแล้ว ถ้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม คงเป็นเรื่องที่ 8 พรรค (ร่วมจัดตั้งรัฐบาล) จะต้องกลับมาประเมินสถานการณ์ดูอีกที ผมจะไม่ตั้งข้อสมมติว่าถ้าโหวตไม่ได้เป็นอย่างไร แต่เป็นเรื่องที่เรา (เพื่อไทย) ต้องกลับมาช่วยกันขบคิดว่าเราจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เท่านั้นเอง” ประเสริฐขยายความ
ประเสริฐเผยถึงกรณีการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ว่า หากทักษิณจะกลับมาประเทศไทย จะเป็นการกลับมาตามกระบวนการกฎหมาย ไม่มีกระบวนการพิเศษแต่อย่างใด
และไม่ทราบถึงกำหนดการว่าทักษิณจะกลับมาตอนไหน เนื่องจากยังไม่ได้ยินจากแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมก็จะเป็นคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางด้านการเมือง เช่น การชุมนุม ไม่รวมคดีทุจริต และเป็นคนละส่วนกับทักษิณ ซึ่งต้องแยกรายละเอียดต่อไป และต้องผ่านกระบวนการทางรัฐสภา
