วานนี้ (11 มกราคม) ที่รัฐสภา นพดล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงข่าวหลังจากประชุมหารือประเด็นการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตามที่ ธเนศ เครือรัตน์ สส. พรรคเพื่อไทย จังหวัดศรีสะเกษ ได้ยื่นเรื่องเสนอเข้ามาให้ กมธ.การต่างประเทศ พิจารณา
โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, กรมแผนที่ทหาร, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, รองแม่ทัพภาคที่ 2 และ ธเนศ เครือรัตน์ เข้าร่วมประชุม
หลังจากรับฟังทุกฝ่าย กมธ.การต่างประเทศ เห็นพ้องกับข้อเสนอของธเนศและหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการผลักดันให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีการปิดทางขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างชายแดนในบริเวณดังกล่าวซบเซาจนถึงปัจจุบัน และเป็นความร่วมมือของทั้งไทยและกัมพูชา
นพดลเห็นว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ได้คลี่คลายลง และทั้งสองฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ซึ่ง ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ตามคำเชิญของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตนจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุยและผลักดันให้มีการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ตนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังส่งเสริมการเดินทางข้ามแดนไปมาระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพื้นที่อีกด้วย
“ข้อมูลในอดีตพบว่าเคยมีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารปีละประมาณ 700,000 คน หากมีการเปิดจุดผ่อนปรนเขาพระวิหาร จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และทั้งสองประเทศย่อมได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและเกิดการกระตุ้นการค้าระหว่างกันมากขึ้น” นพดลกล่าว