เหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ (Charles University) ใจกลางกรุงปรากของสาธารณรัฐเช็ก วานนี้ (21 ธันวาคม) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บ 25 คน ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยตำรวจพบศพมือปืนเป็นนักศึกษาวัย 24 ปี ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายหลังก่อเหตุ
เหตุการณ์เกิดช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่อาคารคณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสยัน ปาลัค (Jan Palach Square) ใจกลางเมือง ซึ่งตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะเร่งอพยพคนออกจากอาคาร
คลิปวิดีโอที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นผู้ที่พยายามหลบหนีมือปืนปีนออกมาตรงขอบด้านนอกอาคารที่สูงหลายชั้น ก่อนตัดสินใจกระโดดลงไปยังชานพักด้านล่างที่สูงหลายเมตร และอีกคลิปเป็นภาพฝูงชนที่พากันวิ่งหนีออกจากพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม ท่ามกลางความหวาดผวาหลังได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด
เบื้องต้นพบว่ามือปืนรายนี้เป็นนักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่นอกกรุงปรากราว 21 กิโลเมตร
คาดมือปืนสังหารบิดา-เหยื่ออีก 2 คนก่อนก่อเหตุ
มาร์ติน วอนดราเชก (Martin Vondrášek) ผู้บัญชาการตำรวจสาธารณรัฐเช็ก เปิดเผยว่า ทางการมีข้อมูลของมือปืนอยู่แล้วก่อนที่จะก่อเหตุ โดยต้องสงสัยว่าเขาอาจเป็นผู้ที่ยิงสังหารพ่อและลูกสาววัย 2 เดือน ที่บริเวณป่าในหมู่บ้านอีกแห่งชานกรุงปรากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ช่วงเช้าวานนี้ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจได้รับรายงานถึงเบาะแสว่า เขากำลังเดินทางเข้าไปในกรุงปราก และมีเจตนาที่จะฆ่าตัวตาย และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบศพของชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน และพบว่าเป็นบิดาของมือปืน
โดยตำรวจยังทราบว่ามือปืนมีกำหนดเข้ารับฟังการบรรยายภายในอาคารคณะอักษรศาสตร์ และได้มีการอพยพคนออกจากอาคารในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ก่อนจะได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุกราดยิงขึ้นในอาคารอีกหลัง
จากการตรวจค้นในอาคาร เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบอาวุธปืนหลายกระบอกของมือปืน ซึ่งพบว่าเป็นปืนที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองและยังพบอาวุธอื่นๆ อีกหลายอย่าง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจกล่าวว่า มือปืนรายนี้เป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีและไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อน โดยเขาลงมือเพียงลำพัง
แต่จากการตรวจสอบข้อมูลในบัญชีโซเชียลมีเดียของมือปืน คาดว่าเขาอาจได้แรงบันดาลใจในการก่อเหตุจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในรัสเซียเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ขณะที่ยังไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ กับกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ
ภาพ: Gabriel Kuchta / Getty Images
อ้างอิง:
