วันนี้ (11 กันยายน) เวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา สามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงคลิปเสียงซึ่งระบุว่าเป็นเสียงของลุงจากบ้านป่ารอยต่อ หลุดว่า เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กระบวนการสืบสวนตรวจสอบมีอยู่แล้ว อีกทั้งตนเปิดคลิปให้เห็นว่า AI สามารถเลียนแบบได้หมด ตนเชื่อมั่นว่าไม่ใช่เสียงของ พล.อ. ประวิตร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเสียงจริง เป็นการบ่งบอกหรือไม่ว่ามีคนพยายามดิสเครดิต พล.อ. ประวิตร สามารถกล่าวว่า การดิสเครดิตทางการเมืองมีทุกวัน การตีข่าวใส่ร้ายแปลว่า พล.อ. ประวิตร อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ใช่หรือไม่ ถึงมีกระบวนการใส่ร้ายแบบนี้ เรื่องไม่จริงทางการเมืองมีเยอะ และมั่นใจว่า พล.อ. ประวิตร ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนใกล้ชิด พล.อ. ประวิตร เป็นคนทำใช่หรือไม่ เพราะคนที่อยู่ใกล้สามารถบันทึกเสียงได้ สามารถกล่าวว่า พล.อ. ประวิตร เป็นคนโอเพน ใครเข้าหาท่านได้หมดไม่ปิดกั้น แต่ที่ตนพูดคือเรามั่นใจได้อย่างไรว่าคลิปนี้เป็นคลิปจริง และตนก็ไม่ทราบว่าเป็นคลิปจริงหรือไม่ ต้องถามคนปล่อยคลิปว่าได้คลิปมาจากไหน เมื่อไร และอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างไร สามารถกล่าวว่า สื่อที่เปิดเผยต้องบอกว่าได้จากใคร กระบวนการได้มาซึ่งพยานหลักฐานและข้อมูลต้องมี แต่ตนมองว่าบ้านจันทร์ส่องหล้าน่าจะมีคลิปมากกว่าบ้านป่ารอยต่อ
สามารถกล่าวต่อว่า ตนยังไม่ได้คุยกับ พล.อ. ประวิตร แต่น่าจะมีคนรายงานท่านแล้ว ท่านไม่ใส่ใจอะไร มั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เสียหายเพราะมั่นใจว่าไม่ใช่คลิปจริง และการที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยยอมรับว่าได้คุยกับ พล.อ. ประวิตร จริง ก็ต้องไปถามปลัดกระทรวงมหาดไทย ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าว พล.อ. ประวิตร ไม่เสียหายใช่หรือไม่ สามารถย้อนถามกลับว่า เรามองว่าท่านเสียหายเพราะมองประเด็นไหน ต้องพิสูจน์ก่อนว่าคลิปมาจากใคร ค่อยมาคิดกันว่าเสียหายหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็พยายามจะโยงว่าให้ท่านเสียหาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นการเอาคืน พล.อ. ประวิตร หรือไม่ สามารถกล่าวว่า ต้องดูว่ามีกระบวนการอะไรหรือไม่ ตนยังเชื่อโดยสุจริตว่าไม่ใช่คลิปจริง และถ้าคลิปนี้จะปล่อยออกมา ทำไมถึงไม่เปิดทั้งหมดเลย จะเป็นซีรีส์หรือไม่ วันนี้เทคโนโลยีไปไกล กระบวนการปลอมเสียงทำได้ง่าย ยังไม่รวมถึงคลิปอื่นๆ ที่อยู่ในโซเชียลมีเดีย คลิปที่ไม่เห็นแต่เรากลับเชื่อว่าเป็นเรื่องคลิปจริง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่าคนรอบตัว พล.อ. ประวิตร ไว้ใจได้หรือไม่ สามารถย้ำว่า พล.อ. ประวิตร เป็นคนดี มองทุกคนเหมือนลูกหลาน ท่านเลยไม่ระวังอะไร ทุกครั้งที่ท่านโดนกระทำหรือโดนรังแกก็ไม่เคยออกมาตอบโต้ ใช้ความเป็นชายชาติทหารด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของท่านรับเอง ไม่เคยออกชี้แจงหรือปฏิเสธ ปล่อยให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับ พล.อ. ประวิตร ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณด้วย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ช่วงนี้เหมือน พล.อ. ประวิตร เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สส. ทยอยไหลออกจากพรรค สามารถเผยว่า อย่ามองอาชีพนักการเมืองว่าไม่มีใครแตะต้องได้ อาชีพนักการเมืองเหมือนอาชีพทั่วไป เข้าออกแบบกีฬาฟุตบอลเวลาเปิดหรือปิดฤดูกาล นักเตะย้ายทีมไปสังกัดทีมที่เล่นเข้ากันหรือทีมที่เงื่อนไขดีกว่า ไม่แปลกแต่ต้องเคารพตระกูลรัตนเศรษฐที่ตัดสินใจแบบนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่ตระกูลรัตนเศรษฐลาออกได้แจ้งกับหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น สามารถกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่อย่าเอามาเป็นประเด็นทางการเมืองว่ามีคนไหลออก วานนี้ (10 กันยายน) ตอนเปิดตัวรองเลขาธิการพรรคทำไมไม่พูดบ้าง ที่มีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาสมัคร บุคลากรที่มีคุณภาพก็ไหลเข้าพรรคเช่นกัน ยอมรับว่าการที่มีคนเข้า-ออกเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คิดเห็นอย่างไรกับการที่ สส. ไหลออกขนาดนี้ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง สามารถกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ประชาชนจะได้นักการเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่คนจากตระกูลใหญ่ แต่เป็นคนตระกูลใหม่ๆ ที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ถ้าเอาแค่คนเก่าๆ คนใหม่ก็เติบโตไม่ได้ นี่คือโอกาสที่ดีที่พรรคพลังประชารัฐจะมีการปรับโครงสร้างการทำงาน การสื่อสารกับประชาชนคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นพรรคที่ปกป้องประชาชน สำคัญที่สุดคือวันที่ พล.อ. ประวิตร กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคและยกมือขึ้นเหนือหัว ท่านพูดชัดเจนว่าต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคการเมืองที่อนุรักษนิยมและทันสมัยอย่างพรรคพลังประชารัฐจะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่หายไป
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่บอกว่าคนลาออกจากพรรคเพราะไม่ถูกใจที่มติพรรคให้ ไพบูลย์ นิติตะวัน นั่งเลขาธิการพรรคจริงหรือไม่ สามารถเผยว่า ชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล อย่านำมาตัดสินภาพรวม ส่วนตัวมองว่าไพบูลย์เหมาะสมในช่วงเวลานี้ที่พรรคปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้สอดรับกับบริบทที่เปลี่ยนไป คนอื่นจะมองไพบูลย์อย่างไรก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล เราต้องเคารพและให้เกียรติการตัดสินใจของทุกคน ไม่ควรนำความคิดเห็นของใครมาใส่หัวเราและไม่เอาของเราไปใส่หัวใคร