×

สมาชิก พปชร. ทวง ‘สัญญาลูกผู้ชาย’ จากเพื่อไทย ตั้งคำถาม ประชาชนจะไว้ใจนายกฯ ได้หรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
28.08.2024
  • LOADING...

วันนี้ (28 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา สามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยมีมติไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า เรื่องนี้เป็นมติของ สส. แต่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแสดงความชัดเจนให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอีกไม่นานพรรคคงมีมติออกมาอย่างแน่นอน หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องนี้ 

 

สามารถยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าคำว่าสัญญาลูกผู้ชายไม่ต้องเซ็นเอกสาร แต่เป็นการให้คำมั่นต่อกันว่า ถ้าจะร่วมรัฐบาลก็โหวตให้ก่อน แล้วค่อยมาดูว่าใครจะดำรงตำแหน่งไหน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ทำอย่างเต็มที่ ในวันที่ เศรษฐา ทวีสิน ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐก็ไปร่วมหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งในวันนั้นระบุว่าจะให้ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมา สส. พรรคเพื่อไทย มีมติอยากให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคงเห็นว่าสถานการณ์พรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร และในวันที่ 15 สิงหาคม ทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลก็มาแถลงข่าวว่าจะเลือกคนของพรรคเพื่อไทยแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นใคร 

 

นอกจากนี้ ในวันเลือกนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีพรรคไหนส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแข่ง และพรรคพลังประชารัฐก็โหวตให้แพทองธารครบทั้ง 39 คน ขาดเพียงคนเดียวคือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะติดภารกิจจัดเลี้ยงนักกีฬาโอลิมปิก และพรรคพลังประชารัฐส่งรายชื่อรัฐมนตรีชุดเดิม 4 คน ซึ่งถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่าคนใดไม่มีความเหมาะสมก็สามารถส่งรายชื่อกลับมาเพื่อเปลี่ยนตัวได้ 

 

“หัวหน้าพรรคก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการไปต่อรองเก้าอี้ และยึดมั่นในคำพูดลูกผู้ชายที่ได้สัญญาไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็มีมติออกมาว่า ไม่สบายใจในการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งผมเคยได้ยินคำสัมภาษณ์ของคุณแพทองธารว่า ยังมีพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล แต่การกระทำของพรรคเพื่อไทยไปเทียบเชิญพรรคโน้นพรรคนี้ ได้ปรึกษาคุณแพทองธารแล้วหรือยัง” 

 

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ เพราะ พล.อ. ประวิตร เป็นปฏิปักษ์กับพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งไม่มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และอยู่เบื้องหลัง 40 สว. ในการถอดถอนเศรษฐานั้น สามารถกล่าวว่า อาจเข้าใจได้ว่า พล.อ. ประวิตร เป็นปฏิปักษ์ แต่ส่วนตัวคิดว่าพรรคการเมืองอื่นน่าจะเป็นปฏิปักษ์มากกว่า เพราะไม่เคยโหวตให้เลย ในรอบของแพทองธารงดออกเสียงทั้งพรรค แต่ของพรรคพลังประชารัฐโหวตให้ 39 คน คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม

 

ส่วนเรื่อง 40 สว. จะเห็นว่าในรายชื่อ 21 คน ก็โหวตให้เศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แปลว่า สว. รับไม่ได้ที่มีการเสนอชื่อ พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำผิด คงไม่มีใครไปยื่นถอดถอน

 

ส่วนที่บอกว่า สว. เป็นคนของ พล.อ. ประวิตร นั้น ก็รู้อยู่แล้วว่า สว. ของ พล.อ. ประวิตร มีอยู่เท่าไร ถ้าจะเอาจริงก็คงมากันหมด แต่ 40 สว. ที่ยื่นคำร้อง มีคนไหนเป็นเพื่อน พล.อ. ประวิตร บ้าง การที่เศรษฐาต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและมาโทษ พล.อ. ประวิตร นั้นไม่ถูก ทำไมไม่ไปโทษคนที่เอาชื่อพิชิตมายัดใส่มือเศรษฐา ต้องโทษคนนั้นมากกว่า

 

“ผมมั่นใจว่าเรื่องของชาวบ้านที่ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีว่าจะตระบัดสัตย์หรือไม่ ต่อไปนี้พูดไปจะเชื่อถือได้หรือไม่ ส่วนเรื่องของพรรค สส. หลายคนคงต้องมีมติและดำเนินการกันต่อไป ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามการเมือง ไม่เคยเห็นตั้งแต่เล็กจนโตที่ให้โหวตไปก่อนแล้วมาบิดทีหลัง ให้โหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังทีหลัง ไม่เคยเห็น” สามารถกล่าว

 

ส่วนความรู้สึกของ พล.อ. ประวิตร ในขณะนี้ สามารถกล่าวว่า “อารมณ์ดี สูบไปป์ เมื่อวานก็ดูข่าวแล้วไม่ได้เครียดอะไร พล.อ. ประวิตร เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรองนายกฯ อดีตรักษาการนายกฯ ผ่านอะไรมาเยอะ” 

 

อย่างไรก็ตาม สามารถยังกล่าวว่า ถ้าแพทองธารคิดว่ามติ สส. ของพรรคสำคัญ เพื่อความสง่างาม ก็ขอให้ลั่นวาจาว่าลาออกแล้วโหวตใหม่ และดูว่าจะมีคนแข่งหรือไม่ และจะเหลือคะแนนเท่าไร อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นต้องระวังด้วยหรือไม่

 

ส่วนถ้ากลุ่มของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปร่วมรัฐบาลเพียงกลุ่มเดียว จะส่งผลอย่างไรกับพรรคพลังประชารัฐ สามารถถามกลับว่า เคยทำได้หรือ เพราะจากที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดว่า “ถ้ามาก็มาทั้งตัว” ก็หมายถึงมาก็มาทั้งพรรคใช่หรือไม่ ต้องไปตีความกันเอาเอง เพราะพรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมีมติพรรค พร้อมยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่แตก แต่ทุกคนที่เป็น สส. มีความคิดเห็นต่างกันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมีมติพรรค ส่วนใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน 

 

สามารถกล่าวว่า หากวันหน้ามาเป็นฝ่ายค้าน และโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีกฎของพรรค ส่วนจะมีโอกาสขับกลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค 

 

“เชื่อว่าไม่ใช่แผนปิดสวิตช์ 3 ป. เพราะปิดไม่ได้อยู่แล้ว พล.อ. ประวิตร ก็ยังเป็น สส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ และที่บอกว่าปิดสวิตช์ก็คงไม่จริง และปิดไม่ได้ด้วย เพราะมั่นใจว่า 3 ป. ยังรักกัน ที่บอกว่าจะปิดสวิตช์ 3 ป. ปิดอะไร ผมไม่เชื่อว่าปิดได้ และเชื่อว่าสายสัมพันธ์ของ 3 ป. ยาวนานกว่า 50 ปี ไม่มีใครมาแยกสลายได้” สามารถกล่าว

 

ส่วนถ้าต้องไปร่วมงานกับฝ่ายค้านจริงนั้น มองว่าฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการความสามัคคีเหมือนกับฝั่งรัฐบาลที่จะต้องรวมเสียง หากโหวตแพ้ รัฐบาลก็ล่ม พรรคฝ่ายค้านก็ทำงานตรวจสอบรัฐบาล ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.อ. ประวิตร ยังไม่ได้ลาออกจาก สส. แม้จะมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X