วันนี้ (15 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา ฉลาด ขามช่วง สส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา โดยได้เชิญผู้ร้องเรียน และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เข้ามาชี้แจง
ฉลาดให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงการเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้ร้องเรียน เข้าชี้แจงเรื่องการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่า กลุ่ม สว. ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าไปทำหน้าที่ ทำเรื่องร้องมายังคณะกรรมาธิการ เพื่อขอให้ตรวจสอบการฮั้วเลือก สว. ในฐานะกรรมาธิการจึงมีหน้าที่ในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ ในส่วนนี้มีบุคคลที่เกี่ยวเนื่องทั้งส่วนราชการ และนักการเมือง
ฉลาดกล่าวว่า ภายหลังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษและเดินหน้าอย่างรวดเร็ว กรรมาธิการจึงได้เชิญ ผู้ร้อง และ กกต. มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งหมดที่อ้างว่าถูกข่มขู่จากหน่วยของรัฐ เราอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย สภาเราต้องมีความโปร่งใส เลือกตั้งแต่ละครั้ง สส. ก็ถูกนินทาอยู่เรื่อย สภาสูง หรือวุฒิสภา เป็นสภากลั่นกรองจะต้องมีความสง่างาม ไม่ได้มองว่าท่านทุจริต
แต่เมื่อสังคมเกิดความสงสัย ทุกองค์กรมีหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ตรวจสอบว่าท่านมาด้วยความสง่างาม พวกเราก็ชื่นชม ขอให้ท่านมา ไม่ใช่เป็นการใส่ร้าย หรือปั้นแต่ง เกิดจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผู้ร้องส่วนหนึ่งมีข้อมูลจะจริงหรือเท็จก็มาพิจารณากัน กกต. และดีเอสไอมีหน้าที่ในการสืบสวนข้อมูลเพื่อจะให้คุณให้โทษ ส่วนกรรมาธิการจะหาข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วรายงานสภาให้ทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการหยิบยกเรื่อง ฮั้ว สว. เข้าที่ประชุมกรรมาธิการจะถูกมองเป็นการเมืองหรือไม่ ฉลาด กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ร้องมายังกรรมาธิการ จึงให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลว่ามีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ เพราะสภาเป็นสภาคู่ ซึ่งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรต้องทำงานร่วมกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ตนยืนยันว่า วันนี้ตนเป็น สส.มา 10 สมัย ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องทำหน้าที่ไม่ทำไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่ม สว.สำรอง ได้ยื่นร้องเรียนมีเรื่องใดบ้างนั้น ฉลาด กล่าวว่า มีทั้งที่เป็นข่าว และบางเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ สิ่งใดที่เป็นความลับในสำนวน เพื่อไม่ทำให้สำนวนสอบสวนของดีเอสไอเสียหาย หรือเกิดการปราบปรามใส่ร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง การชี้แจงต่อกรรมาธิการจึงขอให้ไม่ระบุชื่อตัวบุคคล
ในนามสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะสร้างความมั่นใจว่า เราสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา มาโดยชอบด้วยกฎหมาย สง่างาม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย
สว. สำรอง แฉมีหลักฐาน ภาพ-เสียง ผู้หญิง จ.อำนาจเจริญ เอี่ยวฮั้วเลือก สว.
ก่อนการประชุมนั้น กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว. สำรอง พร้อมคณะ ในฐานะผู้ชี้แจง ได้เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางมาที่สภาผู้แทนราษฎร ก่อนวันเลือก สว. เพื่อเจอหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ทุกคนรู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการนี้ ซึ่งหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวได้ รวมถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนหนึ่ง ได้พูดคุยกับตน โดยถามว่า “สส.แมวมาทำไม ตนจึงบอกไปว่าเป็นผู้สมัคร สว. และมีน้องๆ มาสมัครด้วย วันนี้จึงมาพบผู้ใหญ่เพื่อขอความเมตตาและขอคะแนน” เขาจึงถามว่า ทำไมมาขอคะแนน ทีละคะแนน เขามีเป็น 1,000 คะแนน
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีช่วยคนดังกล่าวก็ได้พาตนไปสวัสดีกับหัวหน้าพรรค และให้แลกไลน์กับเลขานุการเอาไว้ รวมถึงโทรไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ทำโพยทุกโพย ตนจึงได้โทรไปหาผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเขาตอบมาว่าหัวหน้าได้บอกมาแล้ว พร้อมถามตนต่อว่าอยู่กลุ่มไหน แต่เมื่อตนบอกว่าอยู่กลุ่ม 14 ผู้หญิงคนนั้น กลับตอบว่าเต็มแล้ว ทั้งที่ยังไม่มีการเลือกในขณะนั้น แต่บอกว่าสว.10 คนเต็มแล้วแสดงว่ามีการจัดโผกันเสร็จแล้ว”
กุสุมาลวตีจึงถามว่าเต็มแล้วเหรอ ผู้หญิงคนดังกล่าวยังถามอีกว่า จะเป็นสว. ตัวจริงหรือจะเป็นโหวตเตอร์ ตนจึงตอบว่าตนเป็น สส. มา 3-4 สมัยมีศักดิ์ศรี ขอไม่เป็นโหวตเตอร์ ผู้หญิงคนนั้นจึงกล่าวต่อว่า สว. 1 คน ใช้โหวตเตอร์ 400 คน ซึ่งวันนั้นตนไม่เข้าใจ แต่วันนี้เข้าใจแล้วว่า โหวตเตอร์ 400 คนใช้กับ สว. 1 คน และมีโหวตเตอร์เป็น 10,000 คน กว่าจะได้ สว. ซึ่งเป็นกระบวนการในการเลือก สว. ที่ตรงกับหลายฝ่ายชี้แจง
รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยืนยันสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงแล้ว เพราะได้คุยจริง ซึ่งวันนี้ในที่ประชุมตนก็จะถามผู้หญิงคนดังกล่าวด้วยว่าจำได้หรือไม่ ถ้าเข้าโกหกจะบอกว่า คนที่โกหกย่อมกระทำความชั่วทุกอย่างได้
กุสุมาลวตี พร้อมย้ำว่าที่ตนกล้าพูดเพราะในโทรศัพท์มีเสียงผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย และมีรูปถ่ายกับหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จึงอยากนำข้อมูลเหล่านี้ไปชี้แจงที่ศาล
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้เข้าไปชี้แจงกับกกต. อัยการ และ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้วจึงเป็นหลักฐานชัดเจนว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง เพราะมีวัน เวลา และสถานที่ รวมถึงมีไลน์ที่ติดต่อกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงแสดงให้เห็นว่าคนบางคนบางพรรคเป็นคนกำหนดเกมตั้งแต่แรก เพราะก่อนการเลือกสว. บอกได้ว่าสว. กลุ่มไหนเต็มหรือไม่เต็ม อีกทั้งยังตรงกับที่สว. 140 คน บอกจึง อยากจะขอให้สื่อช่วยกันตรวจสอบให้ประชาชนเห็นว่า “มันสกปรกแค่ไหนเพียงใด”
กุสุมาลวตี ยังบอกด้วยว่าคนที่ตนกล่าวถึงก็มาเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ดังนั้นตนจะถามในที่ประชุมด้วย ก่อนย้ำว่าตนมีเสียงพูดคุยกับผู้หญิงคนดังกล่าว เนื่องจากโทรศัพท์ตนได้บันทึกเสียงไว้โดยอัตโนมัติ
จากนั้นเมื่อเข้าสู่การประชุม ในตอนแรกประธานในที่ประชุมอนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมฟังการชี้แจง ก่อนที่ สุทธิชัย จรูญเนตร สส. จังหวัดอุบลราชธานี เขต 5 พรรคภูมิใจไทย ได้ขอให้ประธานเชิญสื่อมวลชน ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นเกี่ยวข้องเท่านั้น