คงไม่มีเจ้าของรถยนต์คนไหนที่อยากทิ้งรถไว้ในศูนย์บริการนานๆ หรือต้องเสียเวลาไปกับการเปลี่ยนยางที่หนึ่ง ย้ายไปซ่อมช่วงล่างอีกที่หนึ่ง ทำให้ธุรกิจประเภท Fast Fit (ฟาสต์ฟิต) หรือศูนย์บริการรถยนต์ทั่วไปประเภทเร่งด่วน เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้น
แต่ถ้าให้เอ่ยชื่อศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรที่คุ้นหูและคุ้นตาที่สุดต้องมี บี-ควิก (B-Quik) อยู่ในคำตอบของทุกคน นอกจากอาคารสีเหลืองที่เห็นชัดในทุกโลเคชันกว่า 200 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ สิ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำเห็นจะเป็นเรื่องของคุณภาพการให้บริการตามปรัชญาของแบรนด์ “เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ” ที่ยึดถือมากว่า 25 ปี
หนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับ บี-ควิก จนถึงวันนี้คือ การดูแลใส่ใจในทุกบริการ โดยทำควบคู่ไปกับการเพิ่มและพัฒนาการบริการให้ครบวงจร ที่สำคัญต้องได้มาตรฐานเดียวกันในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนยาง เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ โช้คอัพ ผ้าเบรก ช่วงล่าง ระบบแอร์ ซ่อมรอยแตกกระจกรถยนต์ โดยทีมช่างมืออาชีพ ส่งผลให้ บี-ควิก ขึ้นแท่นผู้นำด้านศูนย์บริการรถยนต์อันดับหนึ่งของไทย เข้าไปนั่งในใจคนใช้รถยนต์ทั่วประเทศได้อย่างงดงาม
อ่านกลยุทธ์ Music Marketing การตลาดแบบใหม่ของ บี-ควิก ที่ ‘อยากดูแลแบบคนที่รักเขาทำกัน’
หากยังจำกันได้เมื่อกลางปี 2565 บี-ควิก เพิ่งเผยกลยุทธ์และแผนการลงทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาการบริการให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลและให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคมากที่สุด ไปจนถึงการลงทุนกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน สร้าง Training Center ขึ้นมา รวมไปถึงการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
มาปีนี้ บี-ควิก พุ่งเป้าไปที่การขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาศูนย์บริการที่ดูแลเอาใจใส่อย่างดี จึงดึงสองศิลปิน บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ตัวแทนคนรุ่นใหม่นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อเสริมทัพ และเลือกเครื่องมือการตลาดทรงพลัง ‘Music Marketing’ มาใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด ผ่านบทเพลง Mr.Everything ซึ่งได้บิวกิ้นทำหน้าที่ถ่ายทอดจุดเด่น ตัวตน และสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะบอก ผ่านเนื้อเพลงซึ่งเต็มไปด้วยคำพูดออดอ้อนของ Mr.Everything ที่ ‘อยากดูแลแบบที่คนรักทำให้กัน’
ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้น้ำเสียงและแววตาอ้อนๆ ของบิวกิ้นมาทำให้เพลงนี้อบอวลไปด้วยความรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีใครคอยดูแลเราทุกเรื่อง สิ่งที่ทำให้ Mr.Everything ทำงานกับความรู้สึกของคนฟังได้แทบจะทันที ต้องยกเครดิตให้กับ ‘เนื้อเพลง’ เพราะสามารถแมตช์ตัวตนของบิวกิ้นในมุมของชายหนุ่มแสนอ่อนโยนและพร้อมดูแลเอาใจใส่คนรัก เข้ากับ DNA ของแบรนด์ที่ให้บริการแบบเต็มที่เพื่อคุณ พร้อมจะเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างได้อย่างแนบเนียน เพราะถ้าไม่บอกว่านี่เป็นเพลงในแคมเปญ Mr.Everything ของ บี-ควิก ก็คงไม่มีใครรู้ เพราะไม่มีชื่อแบรนด์หรือสิ่งที่บ่งบอกถึงบริการของ บี-ควิก อยู่ในเนื้อเพลงเลย แต่กลับทำให้คนฟังเข้าใจถึง ‘ตัวตน’ ของแบรนด์ได้
“ไม่รู้เธอจะรู้ไหม ว่ามีใครสักคนเขารอที่จะดูแลเธอทุกอย่าง”
บี-ควิก มองว่าการดูแลรถยนต์ก็เหมือนการดูแลความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ยากที่จะมีคนเข้าใจและพร้อมดูแลกันไปตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกับคนใช้รถยนต์ ย่อมมองหาศูนย์บริการรถยนต์ที่พร้อมดูแล เคียงข้าง จัดการทุกปัญหาได้ #ครบทุกบริการเรื่องรถ จบในที่เดียว และคงไม่มีคำไหนจะนิยามตัวตนของ บี-ควิก ได้ดีเท่ากับ ‘Mr.Everything’ อีกแล้ว
ต่อยอดความปังของเพลง Mr. Everything สู่ภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุด
‘บี-ควิก’ มูฟไวสมชื่อ ด้วยการต่อยอดกลยุทธ์ Music Marketing ทันทีหลังเพลง ‘Mr. Everything’ กวาดยอดวิวใน YouTube ทะลุ 15 ล้านวิว ก็ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุด โดยมี พีพี-บิวกิ้น แบรนด์แอมบาสเดอร์มาร่วมถ่ายทอดแนวคิด จุดแข็ง และการบริการของ บี-ควิก ที่พร้อมใส่ใจดูแล #ครบทุกบริการเรื่องรถ แบบที่คนรักทำให้กัน
ต้องบอกว่า บี-ควิก มองเกมขาดที่เลือก พีพี-บิวกิ้น มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพราะภายใต้ภาพลักษณ์คู่จิ้นที่หยิบจับอะไรก็ปัง ทั้งคู่ยังเป็นตัวแทนของมิตรภาพที่ดี ที่มีความห่วงใย เอาใจใส่ และดูแลกันและกันเสมอมา ถ้า บี-ควิก ต้องการจะให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่าแบรนด์พร้อมจะหยิบยื่นมิตรภาพดีๆ เช่นเดียวกับที่ พีพี-บิวกิ้น มีให้กันแล้วล่ะก็ บี-ควิก ทำสำเร็จแล้ว!
‘การดูแลแบบคนที่รักทำให้กัน’ เป็นแบบไหน คลิกเพื่อชมภาพยนตร์โฆษณา แล้วหาคำตอบด้วยตัวคุณเอง
ส่วนใครที่อยากพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า Mr.Everything จะทำให้ทุกเรื่อง #ครบทุกบริการเรื่องรถ จริงหรือไม่ เข้าไปรับบริการได้ที่ บี-ควิก ทุกสาขา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ B-Quik Call Center โทร. 1153
LINE ID: @B-Quik1153
Facebook: https://www.facebook.com/BQUIK
และเว็บไซต์ www.b-quik.com