วันนี้ (19 กันยายน) พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่ประชุมวุฒิสภาต่อกรณีที่ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขัดขวางเจ้าอาวาสวัดบางคลานปฏิบัติหน้าที่ว่าไม่ขัดจริยธรรม เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณารับฟังข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย และพิจารณาเห็นแล้วว่ามีความผิดแต่ไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรง จึงเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณา ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภาไม่เหมือนกับสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพราะ สส. เรื่องจบที่คณะกรรมการจริยธรรม แต่ สว. ต้องนำเสนอเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาให้ความเห็นชอบ และต้องได้เสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งในการเห็นชอบ หรือ 124 เสียง ซึ่งในกรณีของกิตติศักดิ์ได้คะแนนเห็นชอบเพียง 93 เสียง เป็นไปตามกติกา
นอกจากนี้พรเพชรยังกล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีข้อเท็จจริงเข้ามาใหม่หรือไม่นั้นว่า ขณะนี้ตำรวจอาจจะตั้งข้อกล่าวหาซึ่งเป็นเรื่องที่นอกเหนือการพิจารณาของ สว. เพราะ สว. ไม่ได้พิจารณาในส่วนของคดีอาญา จึงต้องรอดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไร โดยเรื่องที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
ส่วนประเด็นพฤติกรรมของกิตติศักดิ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังถือป้ายประท้วงและคัดค้าน พรเพชรกล่าวว่า ต้องไปดูว่าชาวบ้านในพื้นที่เป็นกลุ่มไหน ต้องการอะไร และมีความผิดเป็นอย่างไร เนื่องจากมี 2 ฝ่าย ซึ่งตนก็ไม่ทราบและไม่ได้ศึกษารายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น
พรเพชรกล่าวอีกว่า เมื่อตำรวจตั้งข้อกล่าวหามาก็ไม่ทราบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วยเหลือหรือเป็นการอุ้มกิตติศักดิ์ สว. แต่ละคนมีวิจารณญาณ เป็นการพิจารณาตามเนื้อผ้า และไม่ได้มีการปรึกษาหารือช่วยเหลือกัน ซึ่งผลการลงมติที่ออกมาเป็นการใช้วิจารณญาณส่วนตัวของ สว. และบางครั้งก็ไม่ได้ทราบรายละเอียดจึงยกประโยชน์ให้
พรเพชรกล่าวว่า กรณีของกิตติศักดิ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องร้องเรียนแล้ว แต่เป็นเรื่องของการออกหมายจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้กิตติศักดิ์ได้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองในช่วงการเปิดสมัยประชุม และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ส่งหนังสือมายังวุฒิสภา
พรเพชรยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้เคยพูดคุยกับกิตติศักดิ์ว่าพยายามอย่าไปมีเรื่องทะเลาะกับใครเลย ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จัดการ ซึ่งตนเคยแนะนำไว้