นอกจากเวลานี้ประชาชนจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานที่ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นไปพร้อมกัน สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคก็น่ากังวลไม่แพ้กัน เพราะเริ่มพาเหรดขึ้นราคาในหลายรายการ เนื่องจากไม่สามารถแบกต้นทุนทั้งค่าขนส่งและวัตถุดิบที่ขยับต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้านั้นๆ
วันนี้ (1 พฤษภาคม) THE STANDARD สำรวจรายการอาหารที่เคยเป็นประเด็นเรื่องการปรับราคาขึ้นสูงช่วงหนึ่งจนเป็นปรากฏการณ์ของตลาด นั่นคือ ‘เนื้อหมู’ อีกครั้ง
ที่ตลาดบางกอกน้อย ผู้ค้าส่งเนื้อหมูดิบเปิดเผยด้วยความรู้สึกแรกเมื่อทักทายถามถึงสถานการณ์การค้าขายและราคา รวมถึงกำลังซื้อเวลานี้ ได้คำตอบว่า “อยากจะย้ายประเทศแล้ว” พร้อมเล่าอีกว่า ราคาหมูเวลานี้ปรับขึ้นมาจากหน้าฟาร์ม บวกกับการที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับขึ้นอีก ทำให้ต้องแบกภาระต้นทุน ลูกค้าก็ลดปริมาณการซื้อลงไปอีก
ส่วนบรรยากาศตลาดพรานนก จากการสำรวจพบว่าทุกร้านปรับขึ้นราคาเนื้อหมู อาทิ หมูสามชั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 210 บาท มีบางร้านปรับขึ้นเป็น 220 บาท ขณะที่ผู้ค้าบอกตรงกันว่าผู้ซื้อมีจำนวนลดลง
ผู้ที่มาซื้อเนื้อหมูที่ตลาดพรานนกรายหนึ่งบอกว่า เลือกซื้อเนื้อหมูในส่วนที่มีราคาถูกและซื้อในปริมาณเยอะกว่าเดิม เพื่อเตรียมไว้สำหรับการทำอาหารรับประทานประมาณ 2 วัน จากปกติซื้อสำหรับพอกินวันเดียว เพราะกังวลว่าราคาเนื้อหมูอาจปรับขึ้นอีก
แม่ค้ารายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ราคาเนื้อหมูมักจะปรับขึ้นทุกวันพระ ซึ่งวันพระในช่วงล่าสุดมีการปรับราคาสูงขึ้นถึง 8-10 บาทต่อกิโลกรัม รายได้ลดลงจากการขายช่วงนี้ 30-40%