เล่นได้ทั้งบทอ่อนแอ แสนเปิ่น เปราะบาง ร้ายลึก หน้าคม ยิ้มหวาน และสวยแม้กระทั่งตอนทำ ‘ปากคว่ำ’ คือคุณสมบัติโดดเด่นอันดับแรกๆ ที่ลอยเข้ามาในหัวทุกครั้ง ที่นึกถึง เบลล่า-ราณี แคมเปญ นางเอกสาวคุณภาพที่กลายเป็นไวรัลได้แทบทุกครั้งในชั่วข้ามคืนที่ผลงานของเธอออกอากาศ
เบลล่าเกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ก่อนจะขึ้นแท่นเป็นนางเอกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เบลล่าเริ่มต้นเส้นทางการแสดงครั้งแรกจากบทนางร้ายในละครเรื่อง รอยมาร (2554) ต่อด้วยภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย และละครเรื่อง ตะวันยอดรัก ใน พ.ศ. 2555
และแจ้งเกิดแบบจริงๆ ใน พ.ศ. 2556 เริ่มจากเรื่อง พรพรหมอลเวง คู่กับ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ที่เบลล่าได้โชว์ทักษะการแสดงน่ารักๆ เพราะต้องสลับร่างกับเด็กสาวอายุไม่ถึง 10 ขวบ ต่อด้วยบท กรองแก้ว ในละครชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร คู่กับ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข จุดกำเนิดคู่จิ้น ‘จิราณี’ ที่ได้มาสานต่อความฟินอีกครั้งใน ปดิวรัดา พ.ศ. 2559
ระหว่างนั้น เบลล่าก็มีผลงานละครออกมาให้แฟนๆ รับชมอยู่เรื่อยๆ เช่น ลูกทาส,เพลิงฉิมพลี, ภพรัก (2557), วิมานเมขลา (2559) และบท พิมาลา หญิงสาวแสนดีที่ถูกเพื่อนรักแห่งคนรักไปต่อหน้าต่อตาใน เพลิงบุญ (2560)
กระทั่งใน พ.ศ. 2561 ชื่อของเบลล่าก็โด่งดังเป็นระดับปรากฏการณ์วงการละครไทยกับบท เกศสุรางค์ และ แม่หญิงการะเกด ที่ไม่ว่าจะทำปากคว่ำ, แก่นแก้ว, แสนน่ารัก, ทำมะม่วงน้ำปลาหวาน, หมูกระทะ, หมูสร่ง หรือหยิบจับทำอะไร ก็กลายเป็นไวรัลให้คนนำไปพูดถึงได้ทุกค่ำคืนที่ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศ และคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแทบทุกเวทีแบบไม่มีข้อสงสัย
1 ปีต่อมา เบลล่าก็ได้บทบาทท้าทายความสามารถอย่างต่อเนื่อง กับบทหญิงขายบริการที่ต้องต่อสู้กับทุกคำหยามเหยียดด้วยความเข้มแข็ง ในละครเรื่อง กรงกรรม ที่สามารถประชันบทบาทกับ ‘ตัวแม่’ อย่าง ใหม่ เจริญปุระ ได้แบบไม่มีใครยอมใคร
นอกจากฝีมือด้านการแสดงที่ยอดเยี่ยม เบลล่ายังได้รับคำชื่นชมทุกครั้งในเรื่องการวางตัวและตอบคำถามนักข่าว ที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของหญิงสาวที่ทั้งสวย มากความสามารถ เข้มแข็ง และไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว
