ใครที่เป็นแฟนหนังของผู้กำกับสุดแนวอย่าง เควนติน ทารันติโน คงจดจำภาพยนตร์เรื่อง Pulp Fiction และผมบ๊อบสีดำของ อูมา เธอร์แมน ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกๆ ของเขา แต่ยังถือเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับคำยกย่องจากเหล่าคนดูและนักวิจารณ์ ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของบทภาพยนตร์ซึ่งแหวกแนว โดยกล้าที่จะไม่เล่าเรื่องตามลำดับเวลาปกติ บวกกับอารมณ์ตลกร้าย การเสียดสี ประชดประชัน ความรุนแรง และบทสนทนาคมๆ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
Pulp Fiction เป็นผลงานเรื่องที่ 2 ของ เควนติน ทารันติโน ผู้กำกับมากฝีมือ เจ้าของผลงานคุณภาพอย่าง Kill Bill ทั้งสองภาค, Inglourious Basterds, Django Unchained และยังควบตำแหน่งเขียนบทร่วมกับ โรเจอร์ อวารี นำแสดงโดย จอห์น ทราโวลตา, ซามูเอล แอล. แจ็คสัน, บรูซ วิลลิส และ อูมา เธอร์แมน
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราว 3 เส้นเรื่อง ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่กลับมีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างคาดไม่ถึง เริ่มด้วยเรื่องของ จูลส์ วินน์ฟีลด์ (ซามูเอล แอล. แจ็คสัน) และ วินเซนต์ เวกา (จอห์น ทราโวลตา) คู่หูมือปืนผู้ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่นาม มาเซลลัส ให้ไปตามล่ากระเป๋าเดินทางที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา พร้อมพา มีอา (อูมา เธอร์แมน) ภรรยาสาวของมาเซลลัสไปเที่ยวตอนที่เขาไม่อยู่
เรื่องต่อมาโฟกัสไปที่ บุตช์ คูลิดจ์ (บรูซ วิลลิส) นักแข่งผู้รับจ้างล้มมวยให้กับมาเซลลัส แต่ดันเผลอชกคู่แข่งจนตายโดยบังเอิญ ทำให้เขาต้องรีบเก็บของหนี แต่ดันลืมของสำคัญบางอย่างเอาไว้ จนทำให้ต้องยอมเสี่ยงตายกลับไปเอา
และเรื่องราวของ พัมป์คิน กับ ฮันนี่ บันนี่ คู่รักที่วางแผนปล้นร้านอาหาร แต่ดันพบว่าภารกิจนี้ไม่หวานหมูอย่างที่คิด
Pulp Fiction ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นด้วยรายได้กว่า 213 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังคว้ารางวัล Palme d’Or ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์มาได้ พ่วงกับอีก 1 รางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 7 สาขา รวมทั้งรางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม