“ในความเห็นผม ชาร์ลีอาจเป็นศิลปินหนึ่งเดียวที่สำคัญที่สุดเท่าที่วงการภาพยนตร์เคยมีมา ด้วยการแสดงสุดมหัศจรรย์และความเป็นไอคอนระดับสากล”
นี่คือนิยามที่ แอนดรูว์ ซาร์ริส นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดัง เคยมอบให้แก่ ชาร์ลี แชปลิน ตำนานนักแสดงตลกชาวอังกฤษ ที่แม้จะผ่านไปแล้วเกือบร้อยปี ชื่อของเขาก็ยังไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
ชาร์ลส์ สเปนเซอร์ แชปลิน เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1889 ทางใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นนักแสดงประจำโรงละคร ทำให้เขาคลุกคลีอยู่กับการแสดง ได้ขึ้นเวทีครั้งแรกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แม้ในช่วงหนึ่งชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่หย่าร้างกัน เป็นเด็กมีปัญหาที่ต้องเข้าออกสถานสงเคราะห์ถึง 2 ครั้งตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ขวบ แต่เขาก็ยังมั่นคงในเส้นทางนักแสดงไม่เปลี่ยนแปลง
จนเมื่ออายุ 19 ปี ชาร์ลีได้เซ็นสัญญากับบริษัท Fred Karno และย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มเป็นที่จับตามองด้วยทักษะการแสดงตลกอันเป็นเอกลักษณ์
อาชีพนักแสดงของชาร์ลีมาถึงจุดสูงสุดในช่วงยุค 20 และ 30 จากภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง The Kid (1921), A Woman of Paris (1923), The Gold Rush (1925), The Circus (1928), City Lights (1931) และ Modern Times (1936) ฯลฯ ซึ่งแม้จะเป็นรอยต่อระหว่างยุคภาพยนตร์เงียบกับภาพยนตร์เสียง แต่ชาร์ลีก็ยังเลือกจะสร้างภาพยนตร์เงียบที่ไม่มีไดอะล็อก และสอดแทรกการเสียดสีประเด็นทางสังคมอย่างคมคายภายใต้เสียงหัวเราะ
ผนวกกับคาแรกเตอร์คนจรจัด (The Tramp) ที่เน้นมุกตลกเจ็บตัวเพื่อต่อสู้กับอุปสรรครอบกาย ทำให้งานของชาร์ลีได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น กระทั่งมาถึงยุค 40 ที่ความชื่นชอบในตัวเขาเริ่มถดถอยจากข่าวลือและประเด็นขัดแย้งมากมายในชีวิตส่วนตัว ทั้งมุมมองทางการเมืองที่เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์ ทิ้งท้ายไว้ด้วยผลงานอย่าง Monsieur Verdoux (1947), Limelight (1952), A King in New York (1957) รวมทั้งการแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เงียบในยุคแรกๆ ของเขา
ชาร์ลีเสียชีวิตในวัย 88 ปี ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบตันขณะหลับ หลังใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในสวิตเซอร์แลนด์มาหลายสิบปี หลงเหลือไว้เพียงผลงานภาพยนตร์นับไม่ถ้วนที่ปัจจุบันหลายเรื่องถูกหยิบขึ้นมายกย่อง โดยหลังจากหันหลังให้ฮอลลีวูดร่วม 20 ปี ชาร์ลีก็ได้รับรางวัลกิตติมศักดิ์ในปี 1972 จาก Academy Awards หรือออสการ์ จากอิทธิพลนับไม่ถ้วนที่เขาสร้างไว้ต่อวงการภาพยนตร์และศิลปะในศตวรรษนี้ และได้รับการยกย่องให้อยู่ในลิสต์ 100 บุคคลสำคัญที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 โดยนิตยสาร Time