The Departed นับว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่สร้าง ‘ปรากฏการณ์’ หลายอย่างให้กับวงการฮอลลีวูด ตั้งแต่การที่ แบรด พิตต์ และทีมโปรดิวเซอร์ใช้เงิน 1.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่อง Infernal Affairs ที่แสดงนำโดยซูเปอร์สตาร์เอเชียอย่าง หลิวเต๋อหัว และเหลียงเฉาเหว่ย มาดัดแปลงเป็นเวอร์ชันฮอลลีวูด
รวมตัวนักแสดงระดับคุณภาพ ทั้ง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, แมตต์ เดมอน, แจ็ก นิโคลสัน, มาร์ก วอห์ลเบิร์ก, วีรา ฟาร์มิกา และอเล็ก บอลด์วิน ฯลฯ มาไว้ในเรื่องเดียวกัน และกลายเป็นอีกหนึ่งงานแนวแก๊งสเตอร์ที่มีการหักเหลี่ยม เฉือนคมแบบเข้มข้นสุดที่ของ มาร์ติน สกอร์เซซี ต่อจาก Goodfellas (1990)
โดยเล่าเรื่องของ ฟรานซิส ‘แฟรงค์’ คอสเตลโล (แจ็ก นิโคลสัน) เจ้าพ่อแก๊งมาเฟียไอริช ที่มอบหมายให้ โคลิน ซัลลิแวน (แมตต์ เดมอน) เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในแก๊ง เข้าไปแทรกซึมเป็นสายลับในหน่วยตำรวจของรัฐแมสซาชูเซตส์
ในขณะที่ บิลลี คอสติแกน (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เด็กหนุ่มพยายามถีบตัวเองจากชาติกำเนิดและสภาพแวดล้อมไม่สู้ดีนัก จนได้เป็นนายตำรวจที่มีอนาคต แต่กลับถูกส่งไปเป็นสายลับไปแก๊งของคอสเตลโลสลับขั้วกับโคลิน ซัลลิแวน
ความสนุกของหนังไม่ได้อยู่ที่การลุ้นว่าสุดท้ายความลับของฝ่ายไหนจะถูกเปิดเผยออกมาก่อนกัน แต่ใจความสำคัญจริงๆ ของ The Departed อยู่ที่การฉายภาพชีวิตที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งของตัวละครทั้งหมด
ทั้งโคลิน บิลลี หรือแม้กระทั่งคอสเตลโล ล้วนมีความปรารถนาลึกๆ ในใจ แต่ด้วย ‘สถานะ’ บางอย่างที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทำให้พวกเขาไม่อาจเลือกทางเดินได้ดั่งใจ และต้องต่อสู้กับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจตลอดเวลา
ทำให้ The Departed ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้ที่ทำเงินทั่วโลกไป 291.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับรางวัลออสการ์สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม รวมทั้งส่งให้ มาร์ติน สกอร์เซซี คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมมาครองได้เป็นครั้งแรกในชีวิต