หากต้องพูดถึงศิลปินดาวรุ่งที่กำลังมาแรงขณะนี้ เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง Billie Eilish หรือไม่ก็ Olivia Rodrigo แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 20 ปี แน่นอนว่าชื่อที่เป็นกระแสตลอดเวลาในฐานะศิลปินอายุน้อยผู้มีผลงานโดดเด่น ซึ่งประสบความสำเร็จรวดเร็ว ก็หนีไม่พ้น Avril Lavigne นักร้องสาวชาวแคนาดาขวัญใจวัยรุ่นยุค Y2K และเจ้าของฉายา ‘Pop Punk Queen’
Avril Ramona Lavigne เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 1984 ณ เมืองนภาณี รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ตั้งแต่เด็กครอบครัวเธอสนับสนุนด้านดนตรีมาตลอด โดยพ่อชอบพาไปร้องคาราโอเกะและซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้ ทั้งไมโครโฟน กีตาร์ คีย์บอร์ด แถมยังเปลี่ยนชั้นใต้ดินของบ้านเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงอีกด้วย
เส้นทางอาชีพศิลปินของ Avril Lavigne เริ่มต้นตอนอายุ 15 ปี เมื่อเธอชนะการประกวดร้องเพลง ทำให้ได้ขึ้นแสดงร่วมกับ Shania Twain นักร้องคันทรีป๊อปที่ประสบความสำเร็จสูงสุด และต่อมาในปี 2000 ก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย Arista Records ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อเดินหน้าล่าความฝันเต็มตัว
ภายหลังเซ็นสัญญาสองปี Avril Lavigne ก็ปล่อยเดบิวต์อัลบั้มแนวป๊อปร็อกผสมพังก์ชื่อ Let Go (2002) มีซิงเกิลฮิตที่เปิดกันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น Complicated, Sk8er Boi และ I’m With You ซึ่งตัวอัลบั้มก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ในฐานะผลงานที่ทำให้ป๊อปพังก์กลายเป็นแนวเพลงยอดนิยมและอยู่ในกระแสหลัก
Avril Lavigne ประสบความสำเร็จต่อเนื่องกับ Under My Skin (2004) ที่ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard 200, The Best Damn Thing (2007) ที่มีเพลงดังอย่าง Girlfriend, Goodbye Lullaby (2011) และ Avril Lavigne (2013) ที่ได้รับการรับรองยอดขายระดับ Gold ในหลายประเทศ และ Head Above Water (2019) อัลบั้มชุดล่าสุด ที่เธอได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ต่อสู้กับโรคไลม์
ตลอดเวลากว่า 20 ปีในวงการเพลง ต้องบอกว่า Avril Lavigne คือศิลปินผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่ง สตูดิโออัลบั้มทั้ง 6 ชุดของเธอทำยอดขายรวมกันไป 40 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก พร้อมกวาดรางวัลต่างๆ มากกว่า 150 รางวัล เธอถูกยกย่องให้เป็น ‘ไอคอน’ ผู้กรุยทางสู่ความสำเร็จแก่ศิลปินหญิงและวงดนตรีแนวป๊อปร็อกหรือป๊อปพังก์ที่มีผู้หญิงเป็นคนขับเคลื่อนอย่าง Paramore, Tonight Alive, Courage My Love ฯลฯ
ภาพ: Getty Images