วันนี้เมื่อ 13 ปีก่อน หรือ 18 กรกฎาคม 2008 ภาพยนตร์ The Dark Knight เข้าฉายครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา โดยมันถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังแบทแมนที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากหลายปัจจัย ทั้งตัวคอนเซปต์ที่เน้นความ ‘เรียล’ และ ‘ดาร์ก’ เนื้อหาเข้มข้นที่มีการนำเสนอประเด็นการเมืองรวมถึงจิตวิทยาของตัวละคร ฉากแอ็กชันต่อสู้สุดมัน งานวิชวลเอฟเฟกต์สุดอลังการ ฯลฯ
The Dark Knight คือภาพยนตร์ภาคสองของไตรภาคแบทแมนฉบับผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เขาเขียนบทร่วมกับน้องชาย โจนาธาน โนแลน ซึ่งได้ทีมนักแสดงระดับยอดฝีมือชุดเดิมจาก Batman Begins (2005) กลับมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน เบล, ไมเคิล เคน, แกรี โอลด์แมน เสริมทัพด้วย แอรอน เอ็กฮาร์ต, แม็กกี้ จิลเลนฮาล และ ฮีธ เลดเจอร์
เส้นเรื่องหลักของภาคนี้เล่าถึงการร่วมมือกันระหว่างแบทแมน สารวัตกอร์ดอน และอัยการเขต ฮาร์วีย์ เดนท์ เพื่อยับยั้งแผนก่อการร้ายของโจ๊กเกอร์และลูกสมุนที่นำความโกลาหลมาสู่เมืองก็อตแธม ขณะเดียวกันตัวแบทแมนเองก็ต้องรับมือกับเสียงก่นด่าจากพลเมืองที่ไม่ค่อยพอใจพฤติกรรมตั้งตนเป็นศาลเตี้ยของเขาด้วย
ตลอดโปรแกรมฉาย The Dark Knight กวาดเงินทั่วโลกถล่มทลายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ได้เข้าชิงรางวัลต่างๆ มากมายกว่า 178 รางวัล ชนะมา 103 รางวัล รวมออสการ์ 2 สาขา ได้แก่ Best Sound Editing และ Best Supporting Actor จากผลงานการแสดงอันเอกอุในบทโจ๊กเกอร์ของ ฮีธ เลดเจอร์ ที่จะถูกจดจำและกล่าวขานไปตลอดกาล
มันเป็นภาพยนตร์สายเมนสตรีมที่สมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบจนนักวิจารณ์และเหล่าผู้ชมทั่วสารทิศแทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า “The Dark Knight ไม่เพียงเป็นหนึ่งในหนังแบทแมนหรือหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุด แต่เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเลยต่างหาก”
ภาพ: Warner Bros.