×

6 กุมภาพันธ์ 2547 – ครบรอบ 15 ปี ‘โหมโรง’: ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดดนตรีไทยได้อย่างละเมียดละไมและงดงาม

06.02.2019
  • LOADING...

“เบิกบานใจ และสร้างแรงกระเพื่อมด้วยแก่นของดนตรีที่เติมเต็มจิตวิญญาณ” คือคำโปรยที่นิตยสาร Variety ของสหรัฐฯ มอบให้ โหมโรง ภาพยนตร์ไทยซึ่งถูกยกย่องอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยงานสร้างที่งดงาม ประณีต ละเมียดละไม ไปจนถึงการปลุกกระแสดนตรีไทยฟีเวอร์ให้บูมขึ้นมาอีกครั้ง หลังเข้าฉายเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547

 

เรื่องราวในภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวประวัติของ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ครูดนตรีคนสำคัญของไทย เล่าเหตุการณ์ย้อนกลับไปตั้งแต่ครั้งที่ ศร ยังเป็นเพียงเด็กชายจากอัมพวาผู้ผูกพันกับดนตรีไทยตั้งแต่ยังเล็ก กระทั่งเติบโตเป็นนักดนตรีหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ จนกลายมาเป็นนักดนตรีประจำราชสำนัก ก่อนจะเล่าถึงช่วงบั้นปลายชีวิตที่บ้านเมืองเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตก และถือเป็นช่วงตกต่ำที่สุดของวงการดนตรีไทย

 

ภาพยนตร์กำกับโดย อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ นำแสดงโดยอดุลย์ ดุลยรัตน์, ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, อาระตี ตันมหาพราน และอนุชิต สพันธุ์พงษ์ ซึ่งรับบทสำคัญอย่างศรในวัยหนุ่ม และต้องใช้เวลาหัดเล่นเครื่องดนตรีไทยทั้งซอ ฆ้องวง ระนาดเอก นานถึง 8 เดือน เพื่อให้สวมบทบาทได้สมจริงที่สุด

 

โหมโรง คว้ารางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 14 มาได้ถึง 7 สาขา รวมทั้งรางวัลสำคัญอย่างบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ตามที่ต่างๆ ทั้งโทรอนโต, ปูซาน, ลอนดอน ฯลฯ โดยปัจจุบันถือเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่กลายเป็นไอคอนและเต็มไปด้วยฉากประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการประชันระนาดระหว่างศรและขุนอิน, ซีนสีซอจีบสาวด้วยเพลง คำหวาน หรือฉากที่ศรในวัยชราเล่นระนาดเพลง ลาวดวงเดือน ล้อไปกับเพลง My Blue Heaven ซึ่งลูกชายบรรเลงด้วยเปียโน สื่อถึงการประนีประนอมและแก่นแท้ของดนตรี ที่ไม่ว่าจะมาจากวัฒนธรรมอันต่างกันแค่ไหน ก็สอดประสานจนไพเราะได้ในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X