The Jungle Book หรือเมาคลีลูกหมาป่า เข้าฉายครั้งแรกในปี 1967 และเป็นแอนิเมชันเรื่องสุดท้ายที่ วอลต์ ดิสนีย์ อำนวยการสร้างด้วยตัวเอง ก่อนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในวันที่ 15 ธันวาคม 1966 โดยเป็นการดัดแปลงจากบางส่วนของหนังสือชื่อเดียวกันของ รัดยาร์ด คิปลิง แต่ปรับให้เนื้อหาเบาลงจากต้นฉบับ แล้วใส่เพลงร้องสนุกลงไปตามแบบฉบับของดิสนีย์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม พร้อมกับรายได้ทั่วโลกที่ 378 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
นอกจากเรื่องราวมิตรภาพต่างสายพันธุ์ระหว่าง เมาคลี เด็กน้อยที่เติบโตในป่าใหญ่, เสือดำบาคีลา ผู้ปกครองพงไพร, อาเคลา จ่าฝูงหมาป่าที่เลี้ยงดูเมาคลีเหมือนลูก, บาลู หมีใจดีที่คอยช่วยเหลือเมาคลีอยู่ตลอดเวลา และการต่อสู้อันแสนดุเดือดกับ แชร์คาน เสือโคร่งจอมตะกละ
ความน่าสนใจอีกอย่างที่ทำให้ทุกคนคุ้นเคยกับชื่อเมาคลีได้เป็นอย่างดีคือทำนองช้าๆ เนิบๆ ที่ร้องว่า
“เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์
ฆ่าแชร์คาน ฆ่าแชร์คาน
ถลกหนังมันออกมาให้หมด ถลกหนังมันออกมาให้หมด
มันฆ่าวัว มันฆ่าควาย”
ในเวอร์ชันเพลงลูกเสือสุดโหดที่ไม่มีในภาพยนตร์ แต่ทุกคนต้องเคยล้อมวงล้อมรอบกองไฟร้องวนไปวนมาโดยไม่รู้ที่มาที่ไปตั้งแต่สมัยยังเป็นลูกเสือสำรองและเนตรนารี
เพลงนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์ใน The Jungle Book เวอร์ชันหนังสือที่เนื้อหาเข้มข้นมากกว่า และผู้ก่อตั้งกิจกรรมลูกเสืออยาง ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ นั้นเป็นเพื่อนกับผู้เขียน และได้ยืมองค์ประกอบหลายอย่างไปใช้ในกิจกรรมลูกเสือ เช่น ประโยคคลาสสิกที่ว่า “อาเคลา เราจะทำดีที่สุด” ก็มาจากชื่อของจ่าฝูงหมาป่าที่เลี้ยงดูเมาคลี รวมทั้งอีกหลายกิจกรรม ‘ฝึกตน’ ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
หลังจากการต่อสู้ของเมาคลีจบลงที่ความพ่ายแพ้ของแชร์คานก่อนถูกขับไล่ออกจากป่า (ในหนังสือโหดกว่านี้เยอะ) ก็มีการหยิบเรื่องราวของลูกหมาป่าคนนี้มานำเสนออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ The Second Jungle Book: Mowgli & Baloo ที่เป็นเวอร์ชันคนแสดงในปี 1997, ภาคต่อที่เป็นแอนิเมชันของดิสนีย์ออกมาในปี 2003 รวมทั้ง The Jungle Book เวอร์ชันคนแสดงล่าสุดที่ได้ จอน ฟาฟวโร มาเป็นผู้กำกับในปี 2016 และ The Jungle Book 2 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ ฯลฯ
แม้เวลาจะผ่านมานาน 52 ปี แต่ความคลาสสิกของของ ‘ลูกหมาป่า’ ก็ยังได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วไปอยู่เสมอ เช่นเดียวกัน ชื่อ ‘เมาคลี’ และกิจกรรมต่างๆ ของเหล่าลูกเสือวัยเด็กที่จะยังคงต้องร้องเพลง ‘เมาคลีล่าสัตว์’ ต่อไปอีกนาน